เมื่อวันที่12 ก.พ.63 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก และโรงเรียนวัดอัมรินทราราม กรุงเทพฯว่า ตามที่ตนได้ลงไปเยี่ยมศูนย์บัญชาการโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่นำคนไทยที่มาจากอู่ฮั่น ประเทศจีน ไปกักตัว14 วันเพราะเกรงจะติดเชื่อไวรัสโรคโคโรนา และได้พูดคุยกับคุณหมอ และสาธารสุข ซึ่งคุณหมอได้ขอความร่วมมือในเรื่องของสุขอนามัยในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดโรคระบาดต่าง ๆ ซึ่งศธ.ก็ได้เตรียมแผนไว้อยู่แล้ว แต่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้นไม่ใช่เฉพาะช่วงที่มีปัญหา เรื่องฝุ่นหรือโรคระบาด อยากให้ให้ข้อมูลเหล่านี้ไปถึงเด็กนักเรียนผู้ปกครองถึงการดูแลในเรื่องของความสะอาดทั้งโรงเรียนและที่บ้าน กินร้อนช้อนกลาง ดูแลตัวเองความสะอาดล้างมือสม่ำเสมอในโรงเรียนเพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ที่อาจมีความเสี่ยงมากที่สุด
“ผมคิดว่าช่วงที่จะให้บทเรียนเรื่องน่าจะเป็นช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งในช่วงปฎิบัติจริงครูจะต้องใช้เวลาอยู่กับเด็กนักเรียนมากกว่าเดิม และเป็นโอกาสที่ให้เด็กได้นั่งคุยกันเล่นกันด้วย ซึ่งโรงเรียนในต่างประเทศ หรือโรงเรียนนานาชาติครูส่วนใหญ่จะมานั่งกับเด็กเล็กหรือเฝ้าดูพฤติกรรมของเด็กเล็กและแนะนำสั่งสอนเรื่องการสร้างวินัยในขณะเดียวกันการปรับหลักสูตรก็ต้องให้ถึงตัวเด็กมากขึ้น เพราะหากครูอยู่ใกล้ตัวเด็กก็จะสามารถมองเห็นว่าเด็กแต่ละคนมีทักษะมีความสามารถด้านไหน อันนี้เป็นนโยบายที่ผมอยากให้ครูสนใจกับเด็กในทุกช่วงเวลาจะได้เห็นลักษณะพิเศษความสามารถของเด็กนักเรียน เมื่อมีการปรับหลักสูตรแล้วเราหวังว่าจะสามารถเห็นความสามารถทักษะพิเศษของเด็กในช่วงต้นน้ำ และปลายน้ำได้ จะสามารถสนับสนุนแนะแนวทางที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่จะเรียนต่อในอนาคต เพราะหลายคนอยากเรียนหมอ วิศวะ เป็นครู แต่ในความเป็นจริงทุกคนไม่สามารถเป็นได้ ดังนั้นจึงต้องปรับแนวทางให้เขาเห็นถึงความสามารถของเขาเองและส่งเสริมทางด้านนั้น