นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยภายหลังการประชุมชี้แจงเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย – เนปาล รุ่นที่ 1 ณ อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมนครเขตประชาสรรค์ วัดหัวลำโพง เขตบางรัก กรุงเทพฯ ว่า ในปี 2563 กรมการศาสนา โดยกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ดำเนินการส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เป็นเครือข่ายปฏิบัติงานในโครงการต่าง ๆ ของกรมการศาสนา เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย–เนปาล ได้แก่ สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล, สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา, สถานที่ปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ และสถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวะโนทะยาน กุสินารา สาธารณรัฐอินเดีย รวม 3 รุ่น จำนวน ๒๓๐ รูป/คน โดยรุ่นที่ 1 เดินทางระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 60 รูป/คน รุ่นที่ 2 เดินทางระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2563 จำนวน 85 รูป/คน และรุ่นที่ 3 เดินทางระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2563 จำนวน 85 รูป/คน
นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย–เนปาล เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะพระสงฆ์และเครือข่ายพุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติงานในโครงการต่าง ๆ ของกรมการศาสนา อาทิ พระธรรมวิทยากร พระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ วัฒนธรรมจังหวัด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นจริงในแดนพุทธภูมิแล้ว จะทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น พระสงฆ์จะได้นำหลักธรรมมาถ่ายทอดอบรม และพัฒนาประชาชนให้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นพลังในการอุทิศตนให้แก่การเผยแผ่พระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นส่วนพุทธศาสนิกชนที่ไปก็จะได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ทั้งนี้ยังเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่ง “ส่งเสริมสถาบันศาสนาทุกศาสนาให้มีบทบาทในการเผยแผ่หลักคำสอนที่ดีงาม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จิตใจ และพัฒนาสังคมให้มีความสามัคคี ปรองดอง และยั่งยืน และให้พุทธศาสนิกชนเข้าถึงแก่นแท้คำสอนของพระพุทธเจ้าและสามารถนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้”
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า จากการที่กรมการศาสนาร่วมกับพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาลโดยพระธรรมโพธิวงค์ หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล จำนวน 9 ศูนย์ ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558เพื่ออำนวยความสะดวกให้ คณะพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน ได้ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาและข้อมูลการเดินทางที่ถูกต้อง ขณะนี้ศูนย์ดังกล่าวมีพร้อมให้บริการทุกหน่วยงาน คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย ศูนย์วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ๑ แห่ง และศูนย์ที่ประเทศอินเดีย อีก 8 ศูนย์ ได้แก่ ที่วัดไทยกุสินารา, วัดไทยพาราณสี, วัดไทยพุทธคยา, วัดไทยสารนาถ, วัดไทยเชตวันมหาวิหาร, วัดไทยนวราชรัตนาราม,วัดไทยนวมินทร์ธัมมิกราช และวัดอโยธยารามราชธานี.