เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 น.ส.ดุริยา อมตวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เพื่อให้มีความรัดกุมชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะระเบียบเดิมใช้มาตั้งแต่ปี 2550 ยังไม่เคยมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งแนวปฏิบัติอาจจะหละหลวมไป คาดว่าอย่างช้าประมาณ 2 เดือน น่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จ จากนั้นจะส่งให้กระทรวงการคลังเห็นชอบ และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่ออนุมัติใช้เป็นระเบียบใหม่ต่อไป
“ระเบียบเดิมยังไม่ชัดเจนในบางเรื่อง เช่น วิธีการจ่ายเงิน ซึ่งต้องมีการเขียนให้ชัดเจนมากขึ้นว่า จะต้องจ่ายให้กับผู้รับทุนโดยตรง หรือจ่ายให้แก่สถาบันการศึกษาที่ผู้รับทุนศึกษาอยู่ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะต้องมีระเบียบการจ่ายเงินของกองทุนฯเพิ่มขึ้นด้วย เช่น มีขั้นตอนว่าเมื่อเด็กได้รับทุนแล้วจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง เพื่อปิดช่องโหว่และเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีก ส่วนคุณสมบัติของผู้รับทุนยังเหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติเด็ก เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกองทุนฯต้องการให้เด็กด้อยโอกาสที่เข้าเรียนในวิทยาลัยการพยาบาล โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งก็ดำเนินการได้ตามเป้าหมาย”รองปลัดศธ.กล่าวและว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีแนวคิดจะขยายการให้ทุนการศึกษากับผู้ด้อยโอกาสได้เข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา สาขาด้านการเกษตร จำนวน 100 ทุน ด้วย ทั้งนี้เงินกองทุนฯที่จะนำมาใช้ได้มีประมาณ 39 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทุนการศึกษา สาขาพยาบาลศาสตร์ ทุนละ 55,000 บาท/ปี ทุนระดับประกาศนัยบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทุนละ 24,000 บาท/ปี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)30,000/ปี
น.ส.ดุริยา กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดีกับนางรจนา สินที อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักกิจการการศึกษา สำนักงานปลัด ศธ. ที่ทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ ซึ่งโทษผิดวินัยอย่างร้ายแรงและถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วนั้น ในที่ประชุมไม่ได้หารือในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเรื่องอยู่ระหว่างการสอบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง