นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีพิเศษกับนโยบายขับเคลื่อนอาชีวศึกษา ที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพณิช และ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับกับอาชีวศึกษา เพราะที่ผ่านมาเด็กไทยอาจจะเลือกเรียนสายอาชีวศึกษาน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ สถานประกอบการในทุกอุตสาหกรรมยังขาดแคลนกำลังคนอีกจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเด็กอาจจะมองว่าการเรียนอาชีวศึกษาไม่ได้ปริญญาจึงเลือกไปเรียนสายสามัญมากกว่า ฉะนั้นปีนี้รมว.ศึกษาธิการจึงมีนโยบายสำคัญว่าจะต้องพลิกขั้ว จูงใจให้เด็ก ๆ หันมาเรียนอาชีวศึกษาให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น หรือ ระยะยาว โดยมีเรื่องของการมีงานทำเป็นสิ่งที่จูงใจ วันนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)พยายามทำหลักสูตรที่มีทุกวิทยาลัย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียน โดยยึดหลักว่าเด็กทุกคนที่เข้ามาเรียนจะต้องมีงานทำ ซึ่งเราจะไม่ก้มหน้าก้มตาผลิตโดยไม่ดูความต้องการของตลาด
“นายณัฏฐพล พูดชัดเจนกับผู้บริหารองค์กรหลัก ทั้งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) และ ผม ว่า จะทำอย่างไรให้เด็กเลือกเรียนอาชีวศึกษามากขึ้น จากปัจจุบันที่เลือกมาเรียนประมาณ ร้อยละ 40 โดยตั้งเป้าหมายว่าปีการศึกษา 2563 จะทำให้ได้ร้อยละ 60 ซึ่งผมคิดว่า กิจกรรมเปิดบ้าน หรือ Open House ของสถานศึกษาอาชีวศึกษาจะช่วยให้เด็กตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้สถานศึกษาอาชีวศึกษาจะทยอยจัดกิจกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คำแนะนำแก่เด็ก ๆ นอกจากนี้ สอศ.ยังได้เพิ่มจำนวนสถานศึกษาจัดตั้ง Excellent Center หรือ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษาเฉพาะอาชีพเฉพาะด้าน เพื่อดึงความสนใจของเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้เด็กและผู้ปกครองเข้าใจและมองภาพการอาชีวศึกษาที่ดีขึ้น และเป็นอีกทางเลือกให้เด็กและผู้ปกครองได้”นายณรงค์ กล่าว
