เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับเครือข่ายเพื่อการจัดการศึกษาสำหรับเด็กเร่ร่อนและคนพิการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะดูแลจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเด็กเร่ร่อนและคนพิการอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)ได้ขับเคลื่อนมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งทำให้ได้การมีส่วนร่วมจากเครือข่ายมากมาย เช่น มูลนิพระมหาไถ่ เครือข่ายเพื่อเด็กเร่ร่อน รวมถึง กองทุนการศึกษาเพื่อคนพิการ ที่จะมาช่วยในเรื่องการพัฒนาและอบรมครูที่จะดูแลเด็กเร่ร่อนและคนพิการให้มีทักษะความรู้ในการดูแลจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะมากขึ้น
“เรื่องขวัญกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครู แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ครูของ กศน.ที่ดูแลคนกลุ่มนี้ยังไม่มีความมั่นคง ไม่มีอัตรารองรับ และได้ทะยอยออกไปจนขณะนี้เหลืออยู่เพียง 37 คน ซึ่งเป็นการจ้างเหมา ซึ่งเรื่องนี้ต้องหาทางช่วยเหลือ ให้ครูกลุ่มนี้สามารถทำงานต่อไปได้และมีความมั่นคง ขณะเดียวกันก็จะขอเงินจากกองทุนฯเพื่อมาจ้างครูสอนเด็กเร่ร่อนและคนพิการให้ได้ครบทุกจังหวัด โดยจะหาครูที่มีจิตอาสามา แต่ทั้งนี้จะต้องจัดอบรมความรู้และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กเร่ร่อนและคนพิการ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ให้ได้ แต่ทั้งนี้กลุ่มคนพิการมักจะพูดเสมอว่า ไม่ต้องการเป็นภาระของใคร ดังนั้นเราจะพยายามคิดหลักสูตร หรือ สอนอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของใคร”รมช.ศึกษาธิการกล่าวและว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้ดูงานเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ ทั้งนี้จะรวบรวมปัญหา อุปสรรค ต่าง ๆ ไปหารือในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มี รมว.ศึกษาธิการเป็นประธานด้วย