เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงการรับนักเรียนของโรงเรียนดรุณาราชบุรี ปีการศึกษา 2568 ว่า ปีนี้ เป็นอีกปีหนึ่งที่มีนักเรียนสนใจมาสมัครเข้าเรียนชั้น ม.1 เป็นจำนวนมาก ซึ่งจริง ๆ แล้ว โรงเรียนเราไม่ใช่โรงเรียนเบอร์ 1 ที่เด็กจะเลือกเข้ามาเรียน เพราะเด็กส่วนใหญ่จะไปโรงเรียนของรัฐก่อน เพราะโรงเรียนเอกชนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เมื่อเด็กสอบเข้าไม่ได้ก็จะมาเรียนโรงเรียนเอกชน ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์ผู้ปกครอง อยากเอาลูกมาเข้าโรงเรียนดรุณาราชบุรีมาก แต่เขาก็จะมีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ต้องไปสอบเข้าโรงเรียนของรัฐบาลก่อน ทั้งที่ใจอยากให้ลูกมาเรียนกับเรา และเท่าที่สัมภาษณ์เด็ก ทุกคนอยากมาเรียนที่นี่ เพราะเรียนแล้วมีความสุข ได้ทำกิจกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากที่เราจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps เด็กได้เรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติไม่ได้เรียนเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น อีกทั้งที่โรงเรียนยังมีกิจกรรมเสริมให้เด็กได้เรียน ทำให้เด็ก ๆ มีความสุขกับเพื่อนและมีความสุขในการเรียน
“ประเด็นสำคัญคือเด็กเรียนแล้วมีความสุข ไม่ต้องกดดัน ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เน้นวิชาการ แต่ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps ช่วยให้เด็กคิดเป็นกระบวนการ พอเด็กคิดเป็นกระบวนการได้ ก็สามารถต่อยอดได้ ขณะเดียวกันก็มีครูที่เอาใจใส่ ทำให้เด็กได้รับความอบอุ่น มีครูเป็นเพื่อนร่วมทางไปกับเขาด้วย อีกอย่างคือโรงเรียนมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะเด็กเรียนโดยการปฏิบัติ ซึ่งโรงเรียนในเครือเราทั้งหมดใช้แนวทางเดียวกันในการจัดการเรียนการสอนมานานแล้ว แต่ในช่วงสามปีที่พ่อเข้ามารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนเราใช้ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps เต็มรูปแบบมาตลอด โดยมีสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.)เข้ามาช่วยแนะนำ อบรมครู และ เปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนใหม่ โดยผลที่ออกมา คือ ห้องปัญญาประดิษฐ์ที่เด็กเรียนด้วยโปรเจคทำให้เด็กสามารถคิดได้เอง”ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี กล่าว
บาทหลวง ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมปีนี้ถือว่าเด็กมาสมัครเรียนน้อยลง เพราะจำนวนประชากรช่วงวัยลดลงโดยเฉพาะในระดับประถมศึกษาและอนุบาล แต่ระดับมัธยมศึกษายังค่อนข้างคงที่พอ ๆ กับทุกปี ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ มีเด็ก มาสมัครชั้น ม.1 เกือบ 1,000 คน แต่รับได้แค่ห้องละ 50 คน ในห้องปกติจำนวน 9 ห้อง และห้อง AI อีก 1 ห้อง ๆละ 35 – 40 คน ซึ่งเด็กจะต้องสอบให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่เราวางไว้ โดยเอาคะแนนมาเรียงลำดับรับได้จำนวนเท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามในกรณีที่เด็กระดับปฐมวัยลดจำนวนลงทางโรงเรียนได้มีการปรับตัว โดยเตรียมการใช้การเรียนรู้แบบ Montessori มาปรับวิธีการเรียนการสอนเพื่อปูฐานให้เป็น Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูง GPAS 5 Steps ในอนาคต เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเข้าโรงเรียนในเครือได้ตั้งแต่อนุบาลก็จะอยู่ยาวไปจนถึง ม.ปลาย และทางโรงเรียนก็ได้เตรียมแผนการเรียนระดับ ม.ปลาย โดยมีการ ทำ MOU อยู่กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเรียนที่นี่ก็มีโอกาสเรียนต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำจนจบการศึกษาระดับสูงสุด