ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวถึงการคัดเลือกรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ขณะนี้ข้อมูลล่าสุดทราบว่าสพฐ.ยังมีปัญหาขาดผู้ปฏิบัติหน้าที่ รองผอ.สพท.ถึง 400 กว่าตำแหน่ง บางเขตเหลือเพียง ผอ.สพท.ปฏิบัติงานเพียงคนเดียว ซึ่ง สพฐ.ก็กำลังเร่งดำเนินการเพื่อบรรจุแต่งตั้ง โดยเวลานี้หลักเกณฑ์การคัดเลือกพร้อมแล้ว เพราะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการคัดเลือก ผอ.สพท.  เพียงแต่ยังไม่สามารถประกาศการคัดเลือกได้ เนื่องจากต้องรอการย้าย ผอ.สพท.คนเก่าและบรรจุแต่งตั้ง ผอ.สพท.คนใหม่ที่สอบไว้แล้วอีก 40 กว่าคน  เพื่อจะได้ทราบว่า ตำแหน่งรอง ผอ.สพท.ที่ว่างทั้งหมดมีเท่าไหร่  เพราะตามหลักเกณฑ์กำหนดว่า ในการประกาศตำแหน่งว่างให้ประกาศตามตำแหน่งที่ว่าง ณ ปัจจุบันที่ประกาศ ดังนั้นจึงต้องเคลียร์ย้าย และ บรรจุคนใหม่ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการย้ายผอ.สพท.ได้ในเดือนเมษายน และบรรจุคนใหม่ที่สอบได้ในเดือนพฤษภาคม   ซึ่งไม่น่าจะช้าไปกว่านี้เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ สพฐ.โดยตรงอยู่แล้ว

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับตำแหน่ง รอง ผอ.โรงเรียน ซึ่งขณะนี้ว่างประมาณ 4,000 กว่าตำแหน่ง นั้น เนื่องจาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายว่าไม่เน้นการสอบข้อเขียน ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีมติให้ส่วนราชการที่เป็นผู้ปฎิบัติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกได้เอง โดย ก.ค.ศ.จะเป็นผู้ออกหลักเกณฑ์กว้าง ๆ นั้น สพฐ.ก็กำลังรอ ก.ค.ศ.แจ้งมติดังกล่าวอย่างเป็นทางการก่อน หากได้รับแจ้งแล้ว สพฐ.ก็จะมาประชุมเพื่อทำหลักเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อส่งให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด( กศจ.)ไปดำเนินการคัดเลือกของแต่ละจังหวัดต่อไป

“โดยหลักการการคัดเลือกรองผอ.โรงเรียนแบบใหม่ที่คิดไว้เบื้องต้น  จะไม่เน้นการสอบข้อเขียนแต่จะเน้นผลงานเชิงประจักษ์ เป็นการประเมินแบบ 360 องศา คือ การประเมินประวัติ ผลงาน ศักยภาพ โดยให้คนที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครเป็นคนประเมิน ได้แก่  ผู้บังคับบัญชา เพื่อนครู ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนสถานศึกษา เป็นต้น  ถ้าคุณสมบัติผ่านตามเกณฑ์ก็จะได้ขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลา 2 ปี ถ้ามีตำแหน่งว่าง กศจ.ก็จะประกาศให้คนที่ขึ้นบัญชีไว้มายื่นใบสมัคร เพื่อเสนอวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ต่อไป เพราะฉะนั้นถ้าใครมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ก็จะได้ขึ้นบัญชีทั้งหมด โดยเป็นบัญชีของแต่ละจังหวัด และทุกอย่างเป็นการดำเนินการของ กศจ. โดย สพฐ.เป็นผู้ออกหลักเกณฑ์ปฏิบัติ”เลขาธิการกพฐ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ที่ทำอย่างนี้เพื่อให้คนที่จะขึ้นเป็นผู้บริหารสถานศึกษามีความตั้งใจในการทำงานเพื่อเตรียมตัวเป็นผู้บริหารที่ดี และที่สำคัญเรามีปัญหาการขาดผู้บริหารโรงเรียนเป็นระยะ ฉะนั้นเมื่อมีตำแหน่งว่างก็สามารถประกาศเรียกมายื่นใบสมัครได้เลย ทั้งนี้สำหรับการกำหนดปฏิทินการคัดเลือกนั้น สพฐ.น่าจะประกาศเฉพาะรอบแรกการยื่นสมัครประเมินคุณสมบัติเพื่อขึ้นบัญชี  เพื่อให้เลือกได้เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม สพฐ.กำลังหาหรือในข้อกฎหมายอยู่ว่าการพยายามจะให้ขึ้นบัญชีได้เพียงจังหวัดเดียวนี้จะเป็นการรอนสิทธิ์หรือไม่ด้วย

ดร.บุญรักษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ถ้าดำเนินการคัดเลือกรองผอ.โรงเรียนเรียบร้อยแล้วก็จะมีผลทำให้ตำแหน่งครูผู้สอนว่างลง 4,000-5,000 คน ดังนั้นสพฐ.คงแจ้งกศจ.ให้เรียกบรรจุข้าราชการครูที่ขึ้นบัญชีไว้ แต่ทั้งนี้ต้องดูผลกระทบกับโรงเรียนเอกชน ซึ่งจะได้มีการหารือและประสานกันล่วงหน้า ถ้าจำเป็นคงต้องปรับวางปฏิทินร่วมกัน

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments