เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพสูง เพื่อรองรับอัตรากำลังที่ขาดแคลน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) กรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมธนารักษ์ โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) กรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมธนารักษ์ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมการผลิตกำลังคนทุกช่วงวัยอย่างเต็มกำลังและความสามารถ และนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) “เรียนดี มีความสุข” เน้นย้ำส่งเสริมการจัดการอาชีวศึกษาให้ตอบสนองต่อความต้องการแรงงานในอนาคต รวมถึงสร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ โดยความร่วมมือระหว่าง สอศ. สำนักงาน ก.พ. กรมที่ดิน ส.ป.ก. และกรมธนารักษ์ ในครั้งนี้เพื่อผลิตบุคลากรรองรับอัตรากำลังขาดแคลนของหน่วยงาน ด้านนายช่างรังวัด และนายช่างสำรวจ ซึ่งจะดำเนินความร่วมมือเป็นระยะเวลา 5 ปี (2568 – 2572) โดย สอศ.ทำหน้าที่ในการผลิตกำลังคนสายวิชาชีพได้เพิ่มรายวิชาใหม่ “การรังวัดที่ดิน” รองรับเทคโนโลยีการสำรวจยุคปัจจุบันและตรงกับความต้องการของ กรมที่ดิน ส.ป.ก. และกรมธนารักษ์ ผลิตบุคลากรในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาเทคนิควิศวกรรมสำรวจ ระบบทวิภาคี คือ เรียนทฤษฎี 1 ปีที่สถานศึกษาและฝึกอาชีพในหน่วยงาน 1 ปี เมื่อผู้เรียนผ่านการศึกษาในโครงการนี้จะได้รับการยกเว้นสอบ ภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ.(ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความรู้ที่บรรจุไว้ในหลักสูตร) และมีโอกาสเข้ารับการคัดเลือกเพื่อบรรจุเข้ารับราชการใน 3 หน่วยงานดังกล่าว ตามเงื่อนไขที่กำหนด
“ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนับสนุนน้อง ๆ อาชีวะ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาอาชีวศึกษา ซึ่งอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อให้ภาครัฐได้บุคลากรที่มีความสามารถ และส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพสูงขึ้น สำหรับผู้จบการศึกษาในโครงการนี้ จะมีโอกาสได้รับการคัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการในสังกัด กรมที่ดิน ส.ป.ก. และกรมธนารักษ์ ตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนด ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างบุคลากรคุณภาพ และเกิดประโยชน์กับภาครัฐอย่างยั่งยืน” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีสถานศึกษาในสังกัด สอศ.เข้าร่วม 8 แห่ง โดยกรมที่ดิน ส.ป.ก. และ กรมธนารักษ์ มีอัตราบรรจุรองรับผู้สำเร็จการศึกษา รวม 225 อัตรา ในช่วง 3 รุ่น ตั้งแต่ปี 2570 – 2572 ทั้งนี้สอศ.ได้เปิดรับสมัครผู้เรียนระหว่างวันที่ 1 – 31 มีนาคม 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ sv.ovec.go.th และ ที่วิทยาลัยเทคนิค 8 แห่ง โดยผู้สมัครต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. สาขาสำรวจ หรือกำลังศึกษาระดับ ปวช.ชั้นปีที่ 3 ในสาขาดังกล่าว ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันขับเคลื่อนการผลิตกำลังคนที่มีทักษะ พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาว
ด้าน นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นวิธีการทำให้หน่วยงานราชการสามารถให้บริการประชาชนได้เร็วขึ้น เนื่องจากกระบวนการนี้เป็นเหมือนนำกระบวนการพัฒนาบุคลากรไปให้ตั้งแต่ตอนเรียน เมื่อจบออกมาก็สามารถทำงานได้จริง เพราะน้อง ๆ จะเรียนที่สถานศึกษา 1 ปี แล้วไปฝึกปฏิบัติที่หน่วยงานอีก 1 ปี ซึ่งทางหน่วยงานก็จะเทรนเรื่องกฎระเบียบ เครื่องไม้ เครื่องมือที่เกี่ยวข้องให้ ถือว่าดีกว่าการฝึกงานทั่วไป เมื่อเรียนจบกลับมาก็ทำงานได้เลยเพราะจะมีความเข้าใจกฎระเบียบ เข้าใจเครื่องมือ เข้าใจสภาพงาน
“ในอดีตราชการเวลารับคนเข้าทำงาน จะให้ความสำคัญกับวุฒิการศึกษาเป็นหลัก แต่ต่อไปนี้จะต้องให้ความสำคัญกับทักษะมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เมื่อก่อนเราอยากรับแต่คนดีคนเก่ง ต่อไปก็เติมผลงานเข้าไปด้วย หมายความว่า เข้ามาแล้วทำผลงานได้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งทางราชการและประชาชนที่เข้ามารับบริการ”เลขาธิการ ก.พ.กล่าว