เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายวรวิทย์ อัคราภิชาต ผู้แทนสมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทยและกลุ่มลูกจ้าง ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้แจ้งเรื่องการจัดสรรอัตราการปฏิบัติงาน ให้ราชการ ปีงบประมาณ 2568 โดยปรับเปลี่ยนวิธีการจ้างเป็นจ้างเหมาบริการและตัดเงินสมทบประกันสังคม ส่งผลให้ลูกจ้างกว่า 70,000 คนทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบถึงสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ อาทิ การรักษาพยาบาล การคลอดบุตร การรับเงินสงเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งเป็นสวัสดิการเดียวที่ลูกจ้างนี้มีเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ในวันเกษียณอายุราชการและยามเจ็บป่วย ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ทางสมาพันธ์ฯ ได้มารวมตัวเพื่อขอพบ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง 1.ขอเปลี่ยนจากการจ้างเหมาบริการ เป็นวิธีการจ้างลูกจ้างชั่วคราว พร้อมเงินสมทบประกันสังคมทุกตำแหน่ง 2.ขอปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนตามนโยบายรัฐบาล ที่ปรับฐานเงินเดือน ตามคุณวุฒิปริญญาตรี ปีที่1 มีผลวันที่1พฤษภาคม 2567 เงินเดือน 16,500 บาท ปีที่2 มีผลวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เงินเดือน 18,150 บาท คุณวุฒิต่ำกว่า ปริญญาตรี ปีที่ 1 วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เงินเดือน 10,340 บาท วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เงินเดือน 11,380 บาท และ3. ขอปรับตำแหน่งความมั่นคงในอาชีพลูกต้าง สพฐ. ทุกตำแหน่ง นั้น
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าว ยังไม่ได้รับการดูแลจากกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาล ตนจึงได้ยื่นหนังสือถึงวุฒิสภา เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และ ได้รับการประสานจาก ดร.กมล รอดคล้าย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ว่า วันนี้เวลา 13.00 น. ให้ไปชี้แจงว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง และกรรมาธิการจะสามารถให้ความเป็นธรรมและช่วยเหลืออะไรได้มากน้อยแค่ไหน
“ที่ต้องออกมาเคลื่อนไหว ไม่มีพรรคการเมืองหรือใครหนุนหลังทั้งนั้น เรามาเพราะเราเดือดร้อนจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องประกันสังคม และสิทธิอื่น ๆ ที่ได้รับ พวกเราทุกคนทำงานมามีอายุงาน 15 ปีแล้ว ได้รับการสมทบประกันสังคมตั้งแต่ ปี 2552 เพราะพวกเราเข้าโครงการตั้งแต่โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง(SP 2) คืนครูให้นักเรียน พวกเราเป็นฝ่ายสนับสนุนการศึกษา ทำให้ครูได้ทำงานสอนอย่างเต็มที่ แต่ความเดือดร้อนครั้งนี้ไม่ได้กระทบเฉพาะพวกเรา เพราะสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงครอบครัวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว สพฐ.ได้เชิญผู้แทนและประธานสมาพันธ์ทุกภาคเข้าหารือแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ดังนั้นวันนี้หากชี้แจงกับวุฒิสภาแล้วยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ในการแก้ปัญหาอีก เราก็จะเคลื่อนไหวม็อบใหญ่ 100% ในวันที่ 18 มีนาคม และถึงแม้วุฒิสภาจะรับปากช่วยเหลือแต่ไม่ได้ในระยะเวลาที่คุยกันไว้ เราก็จะเคลื่อนม็อบตามกำหนดเวลาที่นัดหมาย เพราะขณะนี้ลูกจ้างกว่า 7 หมื่นคน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก”นายวรวิทย์กล่าวและว่า ทั้งนี้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ นายสุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้ให้ทางสมาพันธ์ฯเข้าไปชี้แจงความเดือดร้อนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย