เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกแบบบันทึกการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 13 แฟ้มทุกสายงาน แต่ให้ทำแบบฟอร์มขึ้นมาใหม่ให้ง่ายขึ้น และให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นผู้ประเมิน โดยการประเมินทุกครั้งจะต้องมีขั้นตอนที่สามารถตรวจสอบความเป็นธรรมได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการและมอบให้ฝ่ายกฏหมายไปพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ คือ มีมติคณะรัฐมนตรี กรณีสัญญาผูกพันตามโครงการพิเศษ/นักเรียนทุน กรณีการบรรจุในพื้นที่เกาะ บนภูเขาสูง เสี่ยงภัย หรือพื้นที่พิเศษ หรือการบรรจุและแต่งตั้งในสถานศึกษาที่มีลักษณะพิเศษตามที่ส่วนราชการกำหนด และกรณีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษอื่น เช่น กรณี กศจ./อ.ก.ศ.จ.อนุมัติ ซึ่งมีอยู่ในมาตรา 50 ของพระราชบัญญัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม ที่ระบุว่า ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถดำเนินการสอบแข่งขันได้ หรือการสอบแข่งขันอาจทำให้ไม่ได้บุคคลตามความประสงค์ของทางราชการ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอาจคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยวิธีอื่นได้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด
“ต่อไปนี้กศจ.มีอำนาจบรรจุแต่งตั้งครูผู้ช่วยได้โดยไม่ต้องมีการสอบแข่งขัน แต่ต้องอยู่ในพื้นที่มีเหตุจำเป็นพิเศษจริง ๆ โดยทำเกณฑ์ขึ้นมาให้ก.ค.ศ.เห็นชอบ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องอธิบายได้ด้วย”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว