พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีการการอบรมสร้างและพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในระดับเขตพื้นที่ทั้ง 245 เขตพื้นที่ 78 ห้องเรียน มีกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 445,624 คน ลงทะเบียนแล้ว 112,654 คน อบรมแล้วเสร็จ 78,788 คน ส่วนปฏิทินการดำเนินการขับเคลื่อนการยกระดับฯ PISA ปีงบประมาณ 2568 คือ 1. การอบรมและพัฒนาการสร้างข้อสอบแนว PISA และปรับปรุงชุดพัฒนาความฉลาดรู้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 2. การอบรมและพัฒนาการสร้างข้อสอบแนว PISA สิ้นสุด 31 มีนาคม 2568 และ 3. ครู ม.3 และ ม.4 วางแผนการใช้ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ ภาคเรียนที่ 1/2568 จากนั้น จะดำเนินการการสร้างความตระหนักแก่ ผู้บริหารและครู และผู้ปกครอง ในการให้ความสำคัญของการสอบ PISA พร้อมเสริมสร้างสมรรถนะ และช่วยเหลือโรงเรียนที่ถูกสุ่ม (เป็นการภายใน) และตรวจสอบความพร้อมอุปกรณ์และระบบ Internet ก่อนที่จะมีการสอบ PISA ในปี 2025
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สภาการศึกษา(สกศ.) ได้รายงานการขับเคลื่อนนโยบายการยกระดับคุณภาพผลลัพธ์การเรียนรู้ (learning outcome) ของผู้เรียนในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียนจะช่วยส่งเสริมการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย โดยได้เสนอแนวทางการจัดการศึกษาที่เน้นความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) เช่น ครูช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นบวก และเป็นมิตรต่อผู้เรียน และการปรับปรุงหลักสูตรสร้างการเรียนรู้เชิงรุก ส่งเสริมทักษะเชิงพฤติกรรม (non-cognitive skills) นอกจากนี้ในส่วนของแนวทางการพัฒนาผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขัน ของ IMD ประจำปี พ.ศ.2568 ประเด็นอัตราการไม่รู้หนังสือของประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไป สกศ.ได้รายงานแนวทางพัฒนา ได้แก่ การพัฒนาแบบสำรวจการอ่านของคนไทย โดยร่วมมือกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) ก่อนจัดส่งข้อมูลให้ IMD ภายในเดือนมีนาคมนี้
สำหรับการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ (THAILAND Zero Dropout) สกศ. รายงานผลการดำเนินงานการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ พบว่า ข้อมูลเด็กวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ณ วันที่ 20 มกราคม 2568 พบ จำนวนเด็กนอกระบบการศึกษา 1,025,514 คน ติดตามแล้ว 650,833 คน คิดเป็นร้อยละ 63.46 ยังไม่ได้ติดตาม 374,681 คน คิดเป็นร้อยละ 36.54 โดยในจำนวนนี้ มีเด็กการศึกษาภาคบังคับ ช่วงอายุ 6 – 15 ปี ตกหล่นจำนวน 442,962 คน ติดตามแล้ว 211,872 คน คิดเป็นร้อยละ 47.83 ยังไม่ได้ติดตาม 231,090 คน คิดเป็นร้อยละ 52.17 ขณะที่ บุรีรัมย์ Zero Drop out model ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ พบ ข้อมูลเด็กหลุดออกนอกระบบ จำนวน 4,390 คน พบตัวในพื้นที่ 1,383 คน ไม่พบตัวในพื้นที่ 3,007 คน มีผลสำรวจครบ ร้อยละ 100 และจากการวิเคราะห์ข้อมูลเด็กที่ค้นพบ ประกอบด้วย ส่วนที่พบตัว (กลุ่มที่เคยศึกษา กลุ่มที่กำลังศึกษา และกลุ่มที่ไม่เคยศึกษา) จำนวน 1,383 คน (ในจำนวนนี้ มี 417 คน ที่ไม่ประสงค์รับการศึกษา), ส่วนกลุ่มไม่พบตัว มีสาเหตุจากการย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างอำเภอ และอยู่ในเรือนจำ สถานพินิจ เป็นพระ/เณร หรือเสียชีวิต เป็นต้น อย่างไรก็ตามได้มอบให้จัดทำข้อมูลเชิงระบบ เพื่อรู้ตัวเลขว่าปีต่อไปมีเด็กออกจากระบบน้อยลงหรือไม่ พร้อมทำข้อมูลในลักษณะเปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้น
“ส่วนการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ระบบ TRS ทาง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ได้นำเสนอปฏิทินย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี พ.ศ.2568 ผ่านระบบ TRS ตามแนวคิดและนโยบาย “ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น” โดยเปิดให้ยื่นคำร้องขอย้ายผ่านระบบ TRS ตั้งแต่วันที่ 16 – 31 มกราคม 2568 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของ ผอ.สถานศึกษา ผอ.สพท./หัวหน้าส่วนราชการ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ทั้งต้นทางและปลายทาง ดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณาคำร้องขอย้าย ออกคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยข้าราชการครูที่ได้รับอนุมัติย้าย จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษาแห่งใหม่ที่รับย้าย ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568”รมว.ศึกษาธิการกล่าว