หยอก หยอก วันที่ 24 ธันวาคม 2567 *** คำว่า “มิตรภาพ” มันไม่ได้สำคัญที่ว่าใครมาก่อน แต่มันสำคัญที่ว่าใครเข้ามาแล้ว ไม่เคยเดินจากไปในตอนที่เราลำบาก***ส่งท้ายก่อนสิ้นปีมะโรง งูใหญ่ 2567 ช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ อย่าเพิ่งลืมกันเด้อ *** พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ กับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยระยะเวลา 1 ปีเศษใน 2 รัฐบาล โดยมีนโยบายหลักซึ่งประกาศเดินหน้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง นั่นก็คือ “เรียนดี มีความสุข” ที่เน้นลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะ , ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่นด้วยความโปร่งใส , แก้ไขปัญหาหนี้สิน และ จัดหาอุปกรณ์การสอนและสวัสดิการสำหรับครู ขณะเดียวกันก็เร่งลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง เริ่มตั้งแต่ส่งเสริมการเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime , 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ, ระบบแนะแนวการเรียนและเป้าหมายชีวิต, การจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ, การจัดทำระบบวัดผลเทียบระดับการศึกษา, มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ และล่าสุด ก็เปิดตัวระบบย้ายครูคืนถิ่น (Teacher Matching System หรือ TMS) และระบบย้ายข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (Teacher Rotation System หรือ TRS) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของบุคลากรทางการศึกษา ลดภาระครู นักเรียน และผู้ปกครอง…แต่การจะเดินไปถึงเป้าหมายได้ “บิ๊กอุ้ม” ได้ย้ำแนวทางการทำงานแบบมีส่วนร่วมด้วยคีย์เวิร์ด “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน” ย้ำแล้วย้ำอีกย้ำทุกครั้งทุกอีเว้นต์ แต่ผลที่ออกมาดูแล้วก็น่าจะได้แค่ย้ำ …*** ปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2567 กันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่น่าสนใจสำหรับแวดวงการศึกษา คือ มีชื่อของ เสมา 1 “พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” ติดโผ เป็น 1 ใน 3 กลุ่ม “รัฐมนตรีโลกลืม” กับเค้าด้วย ด้วยเหตุผลว่า คุมกระทรวงเกรดเอ แต่ผลงาน 3 เดือนในรัฐบาลกลับไม่เปรี้ยงแถมเงียบกริบ จนประชาชนเรียกหาให้สตาร์ทเครื่อง ตีปี๊บผลงาน รับศักราชใหม่ สลัดครหารัฐมนตรีโลกลืม … อยากจะขำดัง ๆ สื่อทำเนียบนี่ช่างสังเกตเอาเรื่องจริงมาพูดได้… จริง ๆ การจะตีปี๊บดังไม่ดังทีมงานก็ส่วนหนึ่ง แต่ตัวแหล่งข่าวก็มีส่วนสำคัญ ถึงแม้จะทำงานหนักขนาดไหน มีงานเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าคิดว่าสื่อไม่ต้องเดี๋ยวทำส่งให้เอง ทำยังไงก็ไม่โดน ตียังไงก็ไม่ดัง นะจะบอกไห่ ***หรือว่าเป็นนิสัยที่ไม่ชอบคุยกับสื่อ เห็นแล้วเชิ้ดใส่หรือเปล่า ถึงได้ฉายา “รัฐมนตรีโลกลืม..อิอิอิ”…กลับมาปรับโหมดใหม่กันดีกว่า ***เป็นเรื่องอีกแล้วกับโครงการพิมพ์หนังสือแบบเรียนองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ที่วันก่อนสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)ได้มอบรางวัล”ANTI-CORRUPTION AWARDS 2024″ ให้กับ น.ส.โชฏิมา จันทร์คง ผู้ดำเนินรายการสืบสวนความจริง เนชั่นทีวี 22 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับสื่อต้านโกง รวมพลหยุดทุจริตคอร์รัปชั่น-สร้างธรรมาภิบาล ประจำปี 2567 ในชื่อตอน “เปิดโปง พิมพ์ตำราเรียนพันล้านส่อฮั้วประมูล” ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อพิรุธในการประกาศโครงการการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เปิดช่องส่อฮั้วประมูล รวมถึงชำแหละการใช้งบประมาณรัฐ ขององค์การค้าของ สกสค. กระทรวงศึกษาธิการ จนนำไปสู่การได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลสื่อต้านโกงจากคณะกรรมการหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน ที่ใช้เกณฑ์การตัดสินพิจารณาการให้คะแนนในหัวข้อการนำเสนออย่างรอบด้านและเป็นธรรมส่งเสริมการต้านคอร์รัปชั่น โดยมี นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภา เป็นผู้มอบรางวัล***ขณะที่ข่าว 3 มิติก็ลงไปติดตามข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง…เราก็คงต้องติดตามกันต่อไป *** ดูแล้วเรื่องนี้น่าจะเป็นซีรี่ย์เดิมพันกันยาว จะเดินหน้าพวกก็จ้องอุทธรณ์ จะถอยหลังเด็กก็ไม่มีหนังสือเรียน…เฮ้ออ…และยังแว่วมา ว่า สำนักงาน สกสค.ได้มีการประกาศ ประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding)เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 แล้ว แต่ก็ต้องยกเลิกประกาศฯไป เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 โดยให้เหตุผลว่า ราคากลางต่อรายการไม่ถูกต้อง และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการประกาศประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน…อีกเลย***เอ้าเกิดอะไรขึ้นน้อ….สุดท้ายก็ยังมีความรู้สึกเหมือนเดิมว่า กระทรวงศึกษาธิการ ตอนนี้เขาซุ่มทำอะไรกันอยู่…ใครไม่รู้..แต่ หยอก หยอก รู้…รอปีงูพิษ..โอ๊ะปีงูเล็ก ค่อยมาเล่าให้ฟังนะจ๊ะ นะจ๊ะ ***

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments