หยอก หยอก วันที่ 4 ตุลาคม 2567 *** ความซื่อสัตย์มีราคาแพง อย่าคาดหวังมันจากคนราคาถูก *** แค่วันที่ 2 ของการทำงานในสัปดาห์นี้ก็เกิดโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงในวงการศึกษา รสบัสนำนักเรียนและครูจากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ออกทัศนศึกษานอกสถานที่ เกิดอุบัติเหตุบนถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้รถบัสจนมีเด็กนักเรียนและครูเสียชีวิต 23 ราย และ ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 3 คน … ถือเป็นเหตุการณ์ที่แสนสะเทือนใจกับการที่ชีวิตของเด็กตัวเล็กตัวน้อยและคุณครูที่ยังอยู่ในวัยสดใสต้องถูกพรากไปอย่างสลดหดหู่ ด้วยคำว่า “อุบัติเหตุ”…หลังเกิดเหตุกระแสที่ตามมา คือ การเรียกร้องให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมทัศนศึกษา เสียงเรียกร้องนี้ดังมาก ดังจน “ลุงอุ้ม” เสมา 1 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ยิน และ มีคำสั่งให้งดการจัดทัศนศึกษาทันทีไม่มีกำหนด ไม่จำเป็นไม่ต้องไป เด็กต่ำกว่า ป. 4 ให้ยกเลิกการเดินทางทัศนศึกษาต่างจังหวัด แต่หากโรงเรียนไหนที่มีความจำเป็นจะต้องไปทัศนศึกษาต้องดูเป็นกรณีไป แต่ต้องดูมาตรการดูแลความปลอดภัยครู นักเรียนให้ครอบคลุมในทุกมิติ ต้องมีการวางแผน และต้องให้ผู้ปกครองไปด้วย อย่าไปไกลโรงเรียน อย่าให้เด็กต้องเดินทางเหนื่อยมาก … แต่ก็ยังติ่งไว้หน่อยว่า การทัศนศึกษาก็มีความจำเป็นต่อการเรียนรู้ ถ้าหากยกเลิกทัศนศึกษาเลยก็จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของเด็ก … ถึงรัฐมนตรีจะไม่สั่งงดจัดทัศนศึกษา พ่อแม่ ผู้ปกครองก็คงไม่วางใจปล่อยให้ลูกหลานเดินทางไปทัศนศึกษากันแน่แล้ว … แต่ถ้ามองอีกมุมการงดจัดทัศนศึกษาก็เป็นการปิดกั้นโอกาสการเรียนรู้ของเด็กจริง ๆ เพราะเด็ก ๆ จะตั้งตารอการได้ออกไปศึกษา เรียนรู้ นอกห้องเรียนในสถานที่ต่าง ๆ เพราะหากจะรอพ่อแม่ ผู้ปกครองพาไปก็คงไม่เหมือน และจะมีเด็กจำนวนไม่น้อยแน่นอนที่ไม่มีโอกาสนี้ … ต่อจากนี้หลาย ๆ โรงเรียนคงงดจัดทัศนศึกษากันไปเลยเพราะยังขยาดกับเหตุการณ์นี้อยู่ … ก็ได้แต่เสียดายแทนเด็ก ๆ ขณะเดียวกันก็เข้าใจความรู้สึกผู้ปกครองในความเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ … *** ที่แน่ ๆ ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คนพร้อม รถพร้อม อุปกรณ์พร้อม ระบบรักษาความปลอดภัยต้องพร้อมก่อนออกเดินทาง ***โซเชียลก็อย่าดราม่าว่า “ลุงอุ้ม” กันมากเลย เพราะความตกใจ เสียใจ ประกอบกับได้รับความกดดันไม่รู้จะฟังความทางไหน การเป็น“เจ้ากระทรวงเสมา”สวมบทครูถึงแม้จะเป็นตำรวจ แต่ความรู้สึกส่วนลึกก็สามารถดันให้น้ำในตาเอ่อออกมาได้ แม้จะพยายามกลั้นแล้ว น้ำเสียงเครือ ๆ ก็ยังลอดออกมาให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงความสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น … ก็แค่ “งด” แต่ไม่ได้ “ยกเลิก”..เนาะ *** ปรับโหมดมาถึงเรื่องที่หลายคนกำลังตกใจกับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงนามโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นั่นคือ “ระเบียบคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน พ.ศ.2567” หมวดที่ 2 การมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน ในเรื่องการบริหารงานบุคคล บริหารวิชาการ การบริหารทั่วไป บริหารงบประมาณและสินทรัพย์ … เรื่องนี้ก็อย่าเพิ่งพากันตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูม “หยอก หยอก” ได้สอบถามผู้รู้มาแล้ว .. ยังไม่มีอะไร ก็แค่เพื่อความชัดเจน …แต่ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องใหม่ หน่วยงานในระดับพื้นที่มีอำนาจตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ซึ่งใหญ่กว่าหนังสือมอบอำนาจ ศึกษาธิการจังหวัดก็ทำหน้าที่ตามอำนาจที่เขามีอยู่ การปฏิรูปการศึกษาหรือที่ ทั่นเสมา 1 พูดเสมอว่า ไม่ใช่ “ปฏิรูป” แต่เป็น “ปฏิวัติ” โดยครั้งนี้จะมีการมอบอำนาจส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นอำนาจของส่วนราชการระดับกระทรวง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)สำนักงานปลัดกระทรวง (สป.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)กรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.)เป็นต้น ไปยังศึกษาธิการจังหวัดเพื่อให้เกิดการบูรณาการในพื้นที่ ที่ไม่ใช่หน่วยงานของตัวเอง แต่ทั้งนี้การมอบอำนาจต้องไม่ขัดกับพ.ร.บ.ซึ่งเป็นอำนาจที่เคยปฏิบัติอยู่เดิม เวลามอบอำนาจจริง ๆ จะมอบไม่ได้ทั้งหมด เพราะพ.ร.บ.ได้กำหนดไว้แล้ว *** ทว่าการออกประกาศฉบับนี้ จะเป็นต้นน้ำเพื่อนำไปสู่ single command หรือไม่ก็ต้องคอยติดตาม…เอานะ..***มาพูดถึงเรื่องการโยกย้ายทุกตำแหน่ง ทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็ยังพูดกันไม่เลิกในระดับผู้ปฏิบัติถึงความเหมาะสม ความเป็นธรรม และความไม่เป็นธรรมาภิบาล คำสั่งออกมาก็อึ้ง!ไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และ กรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.) ที่ว่อนกันทั่วโซเชียล ว่า การโยกย้ายพิจารณาจากอะไร…จากความรู้ ความสามารถ การเมือง หรือ การวิ่งเต้น หรือ ย้ายเพราะเป็นคน..สนิท…ว่างั้น? มีข่าวว่ามีกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษานัดประชุมผู้บริหารสถานศึกษาบางกลุ่มของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร ไม่พอใจในการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนของ นางรัตติกร ทองเนตร ผอ.สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร ว่า เป็นตัวการใหญ่ในการคัดคนเข้าโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษของ สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร หยอก หยอก ว่าใครสงสัยอะไรก็ให้มาดูคะแนนได้ที่ สพม.ได้เลย เพราะการคัดเลือกคนเธอไม่ได้ทำตามลำพังคนเดียว มีคณะกรรมการถึง 2 ชุด ที่มีองค์ประกอบตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กำหนดทุกประการ กรรมการกลั่นกรองก็ตามองค์ประกอบ ผ่านมติที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เรียบร้อย …อ้าวใครสงสัยอะไรก็ไปดูคะแนนที่ สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร ได้เลย…ไม่ต้องเล่นใต้ดินกันนะ เปิดคะแนนกันแบบ แฟร์ ๆ กันเลย … ส่วนที่มีข่าวว่าลูกจ้างธุรการโรงเรียน สพฐ. ทั่วประเทศนัดแต่งดำบุกกระทรวงศึกษาธิการ เรียกร้องให้ยกเลิกวิธีการจ้างเหมาบริการ ในวันที่ 8 ตุลาคม ล่าสุดแว่วมาว่าคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เรื่องแล้วก็เลยเปลี่ยนใจจะไม่มาแล้ว เลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด รู้มา บอกต่อ รอดู *** หยอก หยอก ก็เป็นแค่ผู้ส่งสาร..จะเป็นข่าวโคมลอยเท็จหรือจริงไม่รู้ว่า ว่าจะมีการสไลด์ผู้บริหารระดับ 11 อีกครั้ง ***ก็ว่ากันไป เอวัง
Subscribe
0 Comments
Oldest