เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 ว่าที่ร้อยตรีธนุ  วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า  ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกคำสั่งให้ นายประยงค์ สารภูมิ  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว มาปฏิบัติราชการที่ สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สพฐ. อีกตำแหน่งหนึ่ง และได้อายัดข้อสอบและกระดาษคำตอบเพื่อดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กันยายนนี้ ทุกอย่างต้องได้คำตอบและมีความชัดเจน เรื่องนี้สพฐ. ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งนี้เมื่อกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น ถ้าพบว่า มีการทุจริต หรือส่อไปในทางทุจริตก็ต้องดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนอย่างเด็ดขาด เพราะตนเชื่อว่า ผลสอบของคณะกรรมการจะเป็นตัวชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ใครจะต้องรับผิดชอบ ใครทำให้เสียหาย ใครประมาทเลินเล่อ หรือใครมีความพกพร่องในเรื่องใด ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ที่ได้เลื่อนขึ้นมาลำดับที่ 1 แทนน.ส.เบญญาภา เป็นคนนามสกุลดัง  นั้น ตรงนี้เป็นความคิดเห็นของแต่ละบุคคล สพฐ.เองก็ต้องมีความเป็นกลาง ขอให้รอผลการตรวจสอบ ซึ่งพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า กรณีนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)  นายสุรศักดิ์  พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. และเลขาธิการกพฐ. ให้ความสำคัญติดตามอย่างใกล้ชิด ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและสรุปผลให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้  อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจสอบ กรณีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องยาก อันดับแรกต้องไปดูที่กระดาษคำตอบ  ข้อสอบ และเฉลยใหม่ ว่ามีการแก้ไข ฝนรหัสใหม่เหมือนที่สังคมสงสัยหรือไม่ เพราะเป็นการใช้ดินสอสองบีในการฝนรหัสคำตอบ และ เป็นการตรวจด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่การตรวจด้วยมือ เนื่องจากมีผู้เข้าสอบกว่า 250 คน เฉพาะสาขาวิชาเอกวิทยาศาสตร์ มีผู้เข้าสอบจำนวน 106 คน  ขณะเดียวกันได้ประสานเชิญ น.ส.เบญญาภา เข้าให้ปากคำที่ สพฐ. เพื่อยืนยันว่า กระดาษคำตอบที่อายัดเป็นของตนเองจริง และได้มีการแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ ก่อนตรวจสอบคะแนนของน.ส.เบญญาภา ต่อไป

“ส่วนเรื่องความผิดพลาดของ เขตพื้นที่ฯก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน โดยต้องลงไปดูว่า ใครทำผิดพลาด ส่วนอีกรายที่มีชื่อมาแทน ก็ต้องตรวจสอบคะแนนเช่นเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับผลคะแนนของทั้งสองคนเป็นสำคัญ ทั้งนี้จากที่ดูข้อมูล และผลการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่เห็นความตั้งใจในทางทุจริต แต่จะมีความหละหลวมในการทำงานในแต่ละขั้นตอน ซึ่งในส่วนของรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ที่โทรให้น.ส.เบญญาภาลบโพสต์นั้น ก็ถือว่า ดำเนินการไม่ถูกต้อง และได้มีการว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจาไปเรียบร้อยแล้ว” นายพัฒนะกล่าว

รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบออกมาแล้วพบว่า น.ส.เบญญาภาสอบได้คะแนนอันดับ1 จริง ตามประกาศครั้งแรก ก็จะบรรจุแต่งตั้งให้ในตำแหน่งที่สอบได้ แต่หากคะแนนไม่ผ่าน ก็ต้องหาวิธีเยียวยา อาทิ คืนสู่สถานะเดิม คือ ให้กลับเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้าน ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้ได้ทำงานในพื้นที่ ทั้งนี้ในส่วนของเขตพื้นที่ฯ กรณีไม่ตั้งใจทุจริต เป็นความผิดพลาดที่กระบวนการ ถือเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายร้าย มีความผิด ทั้งว่ากล่าวตักเตือน ตัดเงินเดือน และภาคทัณฑ์  แต่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการทุจริต ก็ต้องมีการตั้งกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรงผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป  ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ที่สอบได้แทนที่น.ส.เบญญาภา เป็นคนนามสกุลดัง รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นนั้น ตนไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ แต่โดยหลักการจะต้องดูที่คะแนนสอบหากเป็นไปตามหลักฐานที่ปรากฎก็ต้องว่าไปตามนั้น หากพบว่าเป็นการทุจริต เราก็ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานใคร หากกระบวนการไม่ถูกต้องก็รับไม่ได้ทั้งนั้น

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments