เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม พร้อมด้วย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์   ประธานมูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีสอบเป็นพนักงานราชการวิชาเอกวิทยาศาสตร์  ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)สระแก้ว ติดอันดับ1 แต่ต่อมาชื่อหายไปเลย ต่อพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชินชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกธิการ (ศธ.) โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศธ. รับเรื่องแทน โดยนายสิริพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ให้ความสำคัญติดตามความคืบหน้ามาตั้งแต่ต้น และได้สั่งการให้สพฐ. ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ก็ได้ส่งนิติกร ลงไปสืบสวนหาข้อเท็จจริง  และได้เก็บเอกสารมาทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า เรื่องนี้คนผิดก็ต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน เพียงแต่จะเป็นฐานความผิดใด หากเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ความผิดก็จะสถานหนึ่ง แต่หากเป็นการตั้งใจทุจริต ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ กรรมการฯ จัดสอบก็จะต้องรับผิดชอบ โทษสูงสุดคือไล่ออก แต่ทั้งหมดจะต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน และรวมถึงหน่วยงานอื่นอย่างเช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ก็เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย  รับรองว่า งานนี้จะไม่มีมวยล้มอย่างแน่นอน  ส่วน น.ส.เบญญาภา ทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องมีมาตรการเยียวยา แต่ต้องขอดูชุดคำตอบ เพื่อตรวจสอบคะแนนก่อน ซึ่งเบื้องต้น ระหว่างรอผลการสอบข้อเท็จจริง ทางสพฐ. ก็ได้มีการเสนอให้รับตำแหน่งครูอัตราจ้าง ในโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะเป็นตำแหน่งเดียวกับที่ น.ส.เบญญาภา ลาออกมา เพื่อสอบในตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่ข้อเสนอเพื่อปิดปากใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนจะมีผู้เสียหายกี่รายนั้น ส่วนตัวไม่มั่นใจ ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยก่อน แต่ถ้าผู้เสียหายมีมากกว่า 1 รายก็ต้องดำเนินการเยียวยาให้ครบถ้วน ดังนั้นจึงต้องนำเอกสารทั้งหมดมาตรวจสอบที่ส่วนกลาง โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

“ตอนนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้อาญัติหลักฐาน รวมถึงข้อสอบมาทั้งหมดแล้ว และทางเขตพื้นที่ฯ ก็รายงานข้อเท็จจริงมาเป็นระยะ แต่สพฐ. ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อจึงส่งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจจริง ระหว่างที่ความจริงยังไม่ปรากฏ สพฐ. ก็เสนอเยียวยาโดยให้เป็นอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้าน เป็นการชั่วคราว แต่ถ้าความจริงปรากฏว่า น้องสามารถทำคะแนนได้ตามที่มีการประกาศครั้งแรก ก็ต้องให้บรรจุเป็นพนักงานราชการ เพื่อความเป็นธรรม ส่วนจะมีการล้มกระดานสอบใหม่หรือไม่นั้น คงต้องดูเป็นรายกรณี เพราะหากให้มีการสอบใหม่ หลายคนที่ไม่ได้รู้เรื่องด้วย ก็จะได้รับผลกระทบ เพราะทุกคนก็ตั้งใจสอบ ดังนั้นคิดว่า แนวทางนี้ คงไม่เป็นธรรม การที่มีผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพียง 1 คนก็ถือว่ามากแล้ว ไม่อยากให้มีเพิ่มขึ้น เรื่องนี้ความจริงมีเพียงอย่างเดียว หากผลตรวจสอบออกมาแบบใดก็ต้องว่าไปตามนั้น ซึ่งหลังจากผลการสอบสวนออกมาแล้ว ก็จะเชิญน.ส.เบญญาภา และน้องที่ได้รับการประกาศชื่ออีกราย มาพูดคุยเพื่อหาทางเยียวยา ทุกอย่างมีความเป็นวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุ ด้วยผล” นายสิริพงศ์ กล่าวและว่า ส่วนที่ สพม.สระแก้วจะให้คนที่สอบได้ไปรายตัวในวันที่ 17 กันยายน นี้ นั้น ขอให้ชะลอรายงานตัวไปก่อน จนกว่าจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ

น.ส.เบญญาภา กล่าวว่า  หลังจากที่ตนโพสต์ข้อความดังกล่าวไปแล้ว มีผู้บริหารระดับรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ โทรมาเพื่อขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวล ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่า คะแนนของตนมาเป็นอันดับ1 จริง ก็ขอให้เยียวยาโดยการบรรจุให้เป็นพนักงานราชการ แต่หากคะแนนไม่ถึงอันดับ1 จริง ก็จะยอมรับผล ตอนนี้ขอแค่ให้ความจริงปรากฏ เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน ส่วนตัวรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จากที่สอบได้กลับชื่อหาย ทำให้เกิดความสงสัย เพราะมีการประกาศผลไปแล้ว 3 วัน แต่ก็ไม่ได้รับการอธิบายที่ชัดเจน โดยยังไม่ได้มีการขอดูข้อสอบ และกระดาษคำตอบ ซึ่งหลังจากนี้ก็อยากขอดูด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่า สอบได้อันดับ1 รู้สึกดีใจมาก โทรบอกที่บ้าน เพราะได้งานทำ วันที่ไปสอบ ก็อยู่เฝ้ายายที่โรงพยายาบาล แต่พอมาปรากฏว่า ชื่อหายก็เป็นห่วงยาย ไม่รู้ว่า ยายจะรู้สึกอย่างไร

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า บ่ายนี้ จะมีการหารือร่วมกับน.ส.เบญญาภา ซึ่งเรื่องนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments