หยอก หยอก วันที่ 14 กันยายน 2567 *** “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” การทำดีไม่ต้องคอยระแวงใคร แต่หากคดโกง ไม่สุจริต ไม่ซื่อตรง สักวันอาจจะเดือดร้อน เมื่อความจริงเปิดเผย *** หยอก หยอก วันนี้ ขอต้อนรับการกลับมาของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ และ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อีกครั้ง … หวังว่ามารอบนี้จะได้เห็นอะไรดี ๆ เกิดขึ้น ที่..วังจันทร์เกษม *** การแถลงนโยบายรัฐบาล “อิ๊ง 1” กรอบใหญ่ด้านการศึกษา คือ ให้ความสำคัญการศึกษาตลอดชีวิต,ช่วยเหลือเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา,โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุน,ลดความเหลื่อมล้ำส่งเสริมให้เกิดการเรียนสองภาษาโดยใช้ AI เป็นตัวช่วย เน้นการสอนทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริงเพื่อการสร้างรายได้ (Learn to Earn) ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนในการจัด การศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการเฟ้นหาและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา พร้อมทั้งส่งเสริมการปฏิรูประบบอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการแรงงาน ในอนาคตและรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning)และ ยังพูดถึงเรื่องคุณภาพและทักษะแรงงานของไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ เยาวชนและประชากรวัยแรงงานที่มีความรู้อ่านออกเขียนได้ขั้นพื้นฐานต่ำกว่าเกณฑ์ ถึงร้อยละ 64.7 คะแนน การวัดผล PISA ของเด็กไทยต่ำสุดในรอบ 20 ปี นอกจากนี้ยังมีเด็กและเยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษามากกว่า 1 ล้านคน นี่ก็คือ กรอบใหญ่ ๆ ของรัฐบาลที่วางไว้ให้กระทรวงศึกษาธิการเดิน ซึ่งต้องมาคลี่ให้เป็นนโยบายอีกครั้ง *** เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา การบริหารภายใต้การนำของ “เสมา1” พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ก็ไม่ได้ขี้เหร่ เพราะได้เรียนรู้การบริหารงานด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี … แต่ทว่าการบริหารหลังบ้านก็มีแต่เรื่องร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพิมพ์หนังสือแบบเรียนองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977)จำกัด ฟ้องว่าไม่ดำเนินการตาม TOR กระดาษผิดสเปก และการบอกเลิกสัญญาบางส่วนฯ ซึ่งเป็นที่มาของการฟ้องร้อง และแถมมีเรื่องฟ้องหมิ่นประมาทต่อศาลอาญาโดยจะไต่สวนมูลฟ้องกันในวันที่ 30 กันยายน นี้ … เรื่องนี้ก็คงไม่จบลงง่าย ๆ *** เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารของกรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.)ที่บอกว่าผู้ใหญ่ขอมาก็คงหนีไม่พ้นข้อครหาว่า “ผู้ใหญ่”ท่านนั้นคือใคร? ตัวจริงหรือตัวปลอม หรือ ไอ้โม่งที่ไหน คนรับและคนทำคำสั่งย่อมรู้แก่ใจ…ถึงตอนนี้ได้ข่าวว่า ผอ.สกร.จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบได้ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยัง อ.ก.ค.ศ. กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้ทบทวนมติ ร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ. ร้องเรียนต่อปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. และจะดำเนินคดีปกครอง และดำเนินคดีอาญาต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ ในกรณี อธิบดี และ อ.ก.ค.ศ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 *** เรื่องการสอบ และโยกย้าย ต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะว่าไปเปิดโปงกันบ้างก็ดี ไม่ว่าการสอบเป็นพนักงานราชการ สอบครูผู้ช่วย หรือสอบอะไรก็ตาม รวมถึงการโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ก็มีเสียงมากระซิบข้างหูว่า มีผู้ใหญ่ขอให้เขตพื้นที่การศึกษาบางเขตแก้ไขคะแนนวิสัยทัศน์ เพื่อให้คนของตัวเองย้ายไปอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ เรื่องนี้ “เสมา1”รู้หรือยัง…ทำอะไรกันก็อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้..จุ๊จุ๊..จิ๊งจกมันเยอะ *** ส่วนเรื่องดราม่าสอบพนักงานราชการ ตำแหน่ง ครูผู้สอน ของ สพม.สระแก้ว ที่การประกาศรายชื่อผู้สอบได้ลำดับที่ 1 น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หายไปจากบัญชีเมื่อมีการประกาศรายชื่อครั้งที่ 2 จากที่ได้อันดับ 1 ในการประกาศครั้งแรกกลับไม่ปรากฏชื่อในการแก้ไขประกาศแม้แต่สำรองก็ยังไม่ติด เรื่องนี้ใครไม่คิดบ้างว่าเกิดอะไรในกอไผ่? เฮ้ออ..ตลกแท้ยุคนี้ ไม่เนียนจริง ๆ … สังคมรอดูอยู่ใครจะรับผิดชอบยังไง *** วันก่อนมีคนเห็นเงาคุ้น ๆ ที่เคยเห็นเข้า ๆ ออก ๆ มาจัดอีเว้นท์ให้นายใหญ่ยุคก่อนเดินตามคนสำคัญท่านหนึ่ง นี่ถ้าเป็นไปอย่างที่คิด เจ้าหน้าที่งานพัสดุคงต้องเหนื่อยอีกรอบ เพราะครั้งก่อนก็พากันแทบกะอักเลือด…555 ***และท้ายสุดก็ยังมีคนเป็นห่วงเรื่องการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่หนีไม่พ้นอยู่แล้ว เพียงแต่จะทำอย่างไรให้ผู้ใช้เป็นฝ่ายควบคุมและใช้งานเทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่ผู้ใช้ถูกควบคุม สั่งการโดยเทคโนโลยี งบประมาณหลายพันล้านที่จะทุ่มลงไปกับเรื่องของเทคโนโลยีการเรียนการสอน การจัดหาอุปกรณ์อย่างแท็บเล็ตหรือโน้ตบุคจะต้องใช้อย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม ที่เทคโนโลยีมันคิดและสั่งการเองไม่ได้ … แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว .. แต่ที่แน่ ๆ การเรียนด้วยการลงมือปฏิบัติแบบ Active Learning ช่วยได้ ***
Subscribe
0 Comments
Oldest