เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. มีความเป็นห่วงสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และพบว่าหลายสถานการณ์ไม่ได้รายงานต้นสังกัดโดยทันที หรือรายงานล่าช้า ทำให้การช่วยเหลือและแก้ไขไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้น เลขาธิการ กพฐ. จึงได้มีข้อสั่งการกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับติดตามและรายงานเหตุความไม่ปลอดภัย ของนักเรียน ครู และบุคลากร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีประสิทธิภาพสูงสุด ทันท่วงที มีความชัดเจนในการปฏิบัติ โดยกำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) เมื่อได้รับการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยให้ดำเนินการระงับเหตุหรือบรรเทาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือทุกด้านอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะอยู่ในสภาวะปกติ พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลและผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรของรัฐ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กำกับติดตาม และรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบอย่างต่อเนื่อง
“กรณีครูและผู้บริหารกระทำความผิด ให้ผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที หากกระทำผิดจริงให้ลงโทษให้เด็ดขาด และในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรง หรือเป็นเหตุการณ์ที่ สพท. และสถานศึกษา ไม่สามารถควบคุมหรือบริหารสถานการณ์ความปลอดภัยได้ สพฐ. จะส่งทีมคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาของศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย (ศสป.) สพฐ. หรือ ผู้บริหารระดับสูง สพฐ. ลงพื้นที่บริหารสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยนั้นๆ ทันที พร้อมกันนี้ เลขาธิการ กพฐ. ได้กำชับว่า เมื่อเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น ขอให้ ผอ.สพท. ลงพื้นที่ดูแลสถานการณ์ด้วยตนเอง และผู้บริหารทุกระดับต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากเกิดเหตุการณ์เร่งด่วนขึ้นในพื้นที่สามารถรายงานข้อมูลเบื้องต้นได้ทันทีที่ ศสป.สพฐ. และหากผู้ปกครองหรือประชาชนทั่วไป พบเห็นเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยใดๆ ต่อนักเรียน ก็สามารถแจ้งเหตุเข้ามาได้ที่ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ศสป.สพท.) ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ หรือ แจ้งเหตุมาที่ ศสป.สพฐ. โทร. 0-2123-8789 ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีกรณีที่ครู และผู้บริหาร กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีหลักฐานชัดเจน มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว สพฐ. จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ดังนั้น ขอให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา มีความตระหนักไม่กระทำความผิด ปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ดูแลความปลอดภัย มุ่งประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว