เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2567 ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) ทั่วประเทศ ว่า ได้ขอให้ ศธจ.ทุกจังหวัด เร่งขับเคลื่อนนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’ ของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ โดยขอให้เร่งดำเนินการนำแผนการดำเนินการไปขับเคลื่อนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะเรื่องการยกระดับคุณภาพการศึกษาควบคู่กันกับหน่วยงานอื่น ๆ นอกสังกัด ศธ. ไม่ว่าจะเป็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นต้น

“ศธ.มอบหมายให้ ศธจ.เป็นผู้ประสาน เพื่อให้การจัดการศึกษาไปในทิศทางเดียวกัน มีการเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับปฐมวัย มัธยมศึกษา และ อาชีวศึกษา ไปจนถึงอุดมศึกษา นอกเหนือจากนี้ยังได้เชื่อมโยงไปถึงการจัดทำแผนการศึกษาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของแต่ละจังหวัดด้วย” ปลัด ศธ.กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้แต่ละจังหวัด สำรวจพื้นที่ของตัวเอง โดยประสานกับหน่วยงานสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)ที่อยู่ในพื่นที่ เพื่อที่จะตรวจสอบว่า มีเด็กนักเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับและขั้นพื้นฐาน ออกจากระบบการศึกษากี่ราย อยู่ที่ไหน  และปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กที่ออกจากระบบ ซึ่งหากตรวจพบก็ต้องมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือ โดยพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากเด็กที่ออกจากระบบไปนั้น แต่ละคนมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาแตกต่างกัน

ดร.สุเทพ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเท่าที่ดูเบื้องต้น ตัวเลขเด็กดรอปเอาท์ยังไม่ได้มีปัญหาอะไรที่น่ากังวลมากนัก การมอบแนวทางแก้ปัญหาครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการขันน็อตให้มีการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องการจัดการศึกษา การยกระดับคุณภาพการศึกษา การแก้ปัญหาเด็กดรอปเอาท์ และ นโยบาย ‘เรียนดีมีความสุข’ หากศธจ. ใดพบปัญหาที่อาจทำให้เกิดการติดขัด ศธ.ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือและชี้แนวทางเพื่อแก้ไขต่อไป

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments