หยอก หยอก วันที่ 6 มิถุนายน 2567***ผู้ไม่มีความดีความชอบ มักอวดอ้างว่ามีความดีความชอบ***วังจันทรเกษม วังแห่งนี้มีความสำคัญกับวงการศึกษามาแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ทั้งในฐานะเป็นที่ตั้งโรงเรียน และเป็นที่ทำการกระทรวง ซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายการศึกษาของประเทศ สมกับที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังแห่งนี้ ให้เป็นที่ทำการของกระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็น กระทรวงเกรดA กระทรวงที่ผลิตคนมาพัฒนาประเทศ และน่าจะเป็นกระทรวงที่มีแต่ความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส *** แต่…สิ่งที่เกิดขึ้นเกือบ 30 ปี ตั้งแต่หยอก หยอก ได้เข้ามาเป็นนักข่าวสายการศึกษา กลับตรงกันข้าม เริ่มต้นจาก ปมถูกกล่าวหาล็อกสเปกจัดซื้อ “ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์” ในยุครัฐบาล “บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” โครงการจัดซื้อห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และการจัดซื้อโปรแกรมบริหารโรงเรียนของ สำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.)เมื่อปี 2542 วงเงิน 360 ล้านบาท โดยขณะนั้นกระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และมีมติไล่ออก 6 บิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ต่อสู้กันในชั้นศาลถึง 15 ปี และในปี 2557 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกเพราะเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวมีข้อผิดพลาดในกระบวนการสอบสวน ศธ.จึงต้องคืนตำแหน่งและเงินเดือนย้อนหลังและค่าสินไหมให้กับข้าราชการทั้ง 6 ราย ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ข้าราชการได้ตระหนักว่าจะทำอะไรก็คิดให้ดี เพราะคนสั่งการลอยตัว *** ปี 2555 มีเรื่องทุจริตโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ระยะที่ 2 (SP2) ที่ ล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องกว่า 100 คน *** ปี 2556 สอบครูผู้ช่วย(ข้อสอบรั่ว)สังกัดสำนักงานคณะกรรมการรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เลขาธิการกพฐ.และผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สมัยนั้น ถูกปลดออกจากราชการ *** ปี 2557 คดีสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ให้บริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด กู้เงิน 2,500 ล้านบาท กรณีนี้ศาลพิพากษาจำคุกกรรมการทั้งหมด 19 คนกับอีก 1 บริษัท โดยไม่ให้มีการประกันตัว และ ล่าสุดปี 2566 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกข้าราชการระดับ 8 สำนักงานปลัด ศธ. ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต อาศัยโอกาสที่มีหน้าที่ขออนุมัติเบิกจ่ายเงินของกองทุนฯให้กับนักเรียนนักศึกษาที่เป็นผู้ยากไร้ ขาดแคลนทุนทรัพย์ เข้ากระเป๋าตัวเองกว่า 100 ล้านบาท ในช่วงปี 2548-2560 รวมทุกกระทงความผิดให้ลงโทษจำคุกทันที 93 ปี 279 เดือน …ทั้งหมดข้าราชการได้รับโทษกันแล้ว แต่ข้าราชการการเมืองก็ยังลอยตัว …*** ตอนนี้มีพรายกระซิบมาว่า ป.ป.ช. เรียกข้าราชการหน่วยงานหนึ่งไปชี้แจงการใช้งบประมาณโครงการอบรมภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพกว่า 90 ล้านบาท ว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างโดยทุจริตมิชอบ และยังแว่วมาว่ามีการสอดไส้ให้ ซี 11 เซ็นอนุมัติเงิน 80 ล้านบาทอีกด้วย หน่วยงานไหนก็ไปสืบกันเองนะจ๊ะ นะจ๊ะ เรื่องนี้ หยอก หยอก ขอ..อุบ ไว้ก่อน ที่ร่ายมานี้ก็แค่เตือนกันในฐานะคนคุ้นเคย ทำอะไรก็ให้ระวังตัว เพราะยุคนี้กรรมมันติดจรวด .. กำแพงมีหูประตูมีตา เขาเลิกเป็นแพะกันนานแล้วนะ ** ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นะคะทั่น *** ปรับโหมดมาที่ ร่าง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. เจ้ากระทรวงเสมา พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ได้ลงนามเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)แว่วมาว่าเรื่องดังกล่าวไปถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เรื่องนี้ขอให้ชาวกระทรวงเสมาจับตา อย่ากระพริบ เพราะไม่รู้ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะได้ไปต่อหรือไม่…อิอิอิ *** สุดท้ายจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ หนังสือเรียนเป็นสื่อการเรียนที่สำคัญ เป็นสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการต้องตระหนักและต้องช่วยกันรับผิดชอบ ผ่านมา 22 วันแล้วที่เด็กยังได้หนังสือเรียนไม่ครบ … เรื่องนี้ต้องเอาความจริงมาพูดกันแล้ว ที่ หยอก หยอก กล้าพูดว่าเด็กยังได้หนังสือเรียนไม่ครบ เพราะวันหยุด 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ไปสอบถามผู้ปกครองที่เป็นญาติ พี่น้อง พรรคพวกต่างจังหวัดที่ลูกหลานอยู่ในวัยเรียนว่าได้หนังสือครบกันหรือยัง คำตอบ คือ “ยังค่ะ” โดยเฉพาะวิชา คณิตศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 คณิตศาสตร์ ม.4 วิทยาศาสตร์ ม.4 ฟิสิกส์ ม.5 ที่โรงเรียนได้ทำสัญญาซื้อหนังสือจากองค์การค้าของ สกสค.จะซื้อหนังสือของเอกชนก็ไม่ได้ เพราะได้ทำสัญญาซื้อกันไว้แล้ว ซึ่งเป็นหนังสือใน 11 รายการ จำนวนหนังสือเกือบ 1.6 ล้านเล่ม ที่ บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์(1977)ยังพิมพ์ไม่เสร็จแล้วถูกยกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไป***หยอก หยอก ได้เห็นข่าวของผู้บริหารองค์การค้า สกสค.ว่า ส่งหนังสือครบแล้ว โดยได้ส่งหนังสือในภาคเรียนที่ 1 ไปก่อน ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า ในเมื่อผู้ที่ประมูลหนังสือรายการนี้ได้ คือบริษัท รุ่งศิลป์ สำนักพิมพ์อื่นมีสิทธิพิมพ์ด้วยหรือ? ที่พูดมาไม่ใช่จะเข้าข้างบริษัทรุ่งศิลป์นะ เพียงแต่อยากให้ผู้รับผิดชอบส่งหนังสือเรียนให้ถึงมือลูกหลาน เด็กจะได้มีความรู้ตามตัวชี้วัด ให้ออกมาพูดความจริงกันได้แล้ว *** หยอก หยอก ว่า พลาดตั้งแต่บอกยกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว เข้าทางเขาเลย..ขอบอก *** จะเข้าปิ้งสะเทือนถึงดวงดาวกันหรือเปล่า เพราะตอนนี้ก็ได้ข่าวมาว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ให้ความเห็นว่าองค์การค้าสกสค.เขียน TOR ขัดหลักการกับพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ถ้าผิดกฎหมายจริงจะต้องระงับจ่ายเงินพิมพ์หนังสือเรียนหรือไม่…อืม..เรื่องนี้น่าคิดนะ อีกทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษก็รับเรื่องไว้พิจารณา ซึ่งตรงนี้มีประเด็นเรื่องของการฮั้วประมูลด้วย แถม ป.ป.ช.ก็รับเรื่องไปพิจารณาแล้วเช่นกัน…เฮ้อ เครียดแทน ท้ายสุด ขอฝากองค์การค้าฯ สกสค.หน่อยว่าการให้พนักงานไปนับปกหนังสือคืนทีละแผ่นจะเข้าสัปดาห์ที่สามแล้ว นับได้ถึงครึ่งหนึ่งหรือยัง เพราะปกหนังสือทั้งหมดเกือบ 1.6 ล้านปก น่าจะมีมือเจ็บมือพองกันบ้างนะ ***
