เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศึกษาธิการ) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายให้แก่คณะอนุกรรมการ ในคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ผ่านการประชุมระบบออนไลน์ โดย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องสำคัญตอนนี้ คือ ตนอยากเห็นความเป็นหนึ่งเดียวของกิจการลูกเสือไทย วันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เด็กไม่ค่อยอยากเรียนลูกเสือ เราก็ต้องปรับรูปแบบใหม่ให้มีความดึงดูดและน่าสนใจ ซึ่งจริง ๆ แล้ว วิชาลูกเสือนั้นเป็นสิ่งที่ดี ถ้าไม่ดีจริงคงไม่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลกได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นในส่วนของเนื้อหาเราอาจจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน เช่น การดูแลการจราจรแก้ปัญหารถติด การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ การเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น การวางแผนการเดินทางในทุกมิติ อย่างเรื่องเข็มทิศเราก็ยังคงต้องสอนอยู่แต่อาจจะเป็นระบบเข็มทิศดิจิทัล เนื่องจากบางที่อาจจะไม่มีสัญญาณในการใช้ Google map เป็นต้น
“วันนี้จุดร่วมของเราก็มีคำปฏิญาณตนของลูกเสืออยู่แล้ว ที่จะร่วมเดินไปด้วยกันก็ จะเหลือแค่กระบวนการหรือวิธีการในการเรียนการสอนที่ต้องปรับเปลี่ยนเท่านั้นเอง ซึ่งหากเราสามารถหาจุดร่วมที่เหมาะสมได้ ค่อย ๆ ซึมซับให้เด็กคล้อยตาม ปลูกฝังการรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เด็กมีจิตวิญญาณในการช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อจากหัวใจ จากความรู้สึกที่เด็กเขาอยากทำเอง”พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวและว่า สำหรับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เน้นการสร้างความสุข ซึ่งเมื่อเกิดความรักในสิ่งที่อยากจะทำ เด็กก็จะทำด้วยความสุขเช่นกัน รวมทั้งฝากเรื่อง “สุขาดี มีความสุข” ซึ่งการเข้าค่าย ห้องน้ำต่าง ๆ อาจจะไม่ถึงกับขั้นสวยงามโอ่โถง แต่ต้องสะอาด ให้เด็กดำเนินชีวิตได้อย่างถูกสุขลักษณะ การเรียนรู้ความลำบากนั้น เราฝึกเขาได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ต้องให้เขาไปลำบากในทุกเรื่อง ขอให้เป็นไปในหลักของทางสายกลาง สิ่งสำคัญคือ อยากให้องค์ความรู้ทางการลูกเสือซึมซับอยู่ในผู้คนทุก Generation ตามบทบาทของตนเอง เช่น บางคนอยู่ Gen-B ก็ต้องถอยออกมาเป็นพี่เลี้ยงให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกในการทำงานอยาก ร่วมกันสร้างบุคลากรทางการลูกเสือ Generation ใหม่
ทั้งนี้ ขอย้ำไว้ว่าการลูกเสือจะต้องไม่ตาย จะต้องอยู่ยืนยงตลอดไป ขณะที่แนวทางเรียนดีมีความสุขก็ต้องมีความสุขในการทำงานเช่นกัน พยายามมอบหมายกระจายงานให้ทั่วถึงกัน เพื่อลดภาระ ไม่แบกงานไว้คนเดียว ทำงานอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด สอนให้ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ และที่สิ่งที่ลูกเสือต้องทำมากกว่าคนทั่วไปคือ ช่วยในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งเป็นมิติที่กว้างและใหญ่กว่า ด้วยแนวทางทำดี ทำได้ ทำทันที จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาจับมือกันและพัฒนาการลูกเสือไทยให้ยิ่งใหญ่ต่อไป