เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ ห้องแถลงข่าว อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการแถลงข่าว เรื่อง “ธนาคารหน่วยกิต โอกาสทางการศึกษาสำหรับทุกคน” โดย พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและตระหนักเรื่องโอกาสทางการศึกษาสำหรับทุกคน โดยมุ่งเน้นลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ให้ผู้เรียน “เรียนดี มีความสุข”ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้มีการออกประกาศ เรื่อง แนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2567 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา โดยประกาศฉบับนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการอาชีวศึกษาของประเทศไทยสู่การปฏิบัติและผลักดันไปสู่การดำเนินงานที่เป็นระบบอย่างชัดเจน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน และประชาชนได้นำผลการเรียน ผลลัพธ์การเรียนรู้ ทักษะจากการทำงานหรือทักษะเฉพาะ มาเทียบโอนสะสม และใช้ประโยชน์ในการเพิ่มคุณวุฒิการทำงานและการศึกษาต่อ ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจของตนเอง เปิดโอกาสให้มีการเรียนรู้และการฝึกอบรมใหม่ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำกัดอายุ รวมทั้งสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เพิ่มทักษะและพัฒนาทักษะใหม่ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ และการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ธนาคารหน่วยกิต คือ ระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสะสมหน่วยกิตจากผลการเรียน การฝึกอบรม ประสบการณ์ หรือทักษะ นำไปใช้ต่อยอดในการศึกษาต่อ การเพิ่มคุณวุฒิ หรือการพัฒนาทักษะความสามารถของตน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ 1. ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำกัดวัยและคุณวุฒิ การเชื่อมโยงการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเข้าด้วยกัน 2 .สนับสนุนการสะสมหน่วยกิต ทำให้ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตจากแหล่งต่าง ๆ เช่น การศึกษา การฝึกอบรม ประสบการณ์ หรือทักษะ ไม่มีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาในการสะสม และระยะเวลาในการศึกษา รวมทั้งสามารถเทียบโอนหน่วยกิตระหว่างสถานศึกษาได้ และ 3. พัฒนาระบบการศึกษา โดยส่งเสริมให้สถานศึกษาพัฒนาระบบการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ช่วยให้นักเรียน นักศึกษา พัฒนาทักษะ เพิ่มคุณวุฒิ เพื่อสำเร็จการศึกษาหรือการทำงาน ลดเวลาการศึกษาในระบบสำหรับผู้เรียนที่มีความชำนาญอยู่แล้วให้ไปเรียนวิชาที่มีความสนใจเพิ่มเติม หรือใช้ร่นระยะเวลาในการเรียน และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
“เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง การศึกษาจำเป็นต้องมีการปรับตัวที่จะสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว ซึ่งเป็นยุคที่ต้องเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา anywhere anytime ซึ่งธนาคารหน่วยกิต จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนและประชาชนได้นำผลการเรียนหรือผลลัพธ์การเรียนรู้มาเทียบโอนสะสม และใช้ประโยชน์ในการเพิ่มคุณวุฒิการทำงานและการศึกษาต่อ ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องจึงได้ผนึกกำลังขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จภายใต้แนวทางจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวและว่า กระทรวงศึกษาธิการยังมุ่งเน้นถึงความต้องการของผู้เรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศที่ต้องการลดเวลาเรียนในระบบ ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยวิธีการสอบเทียบวัดระดับความรู้การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ ทักษะ และมีความเป็นเลิศทางปัญญาให้สามารถเข้ารับการทดสอบและประเมินวัดระดับเพื่อให้ได้รับวุฒิการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งขณะนี้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ)กำลังจัดทำเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินอยู่ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้บูรณาการการขับเคลื่อนธนาคารหน่วยกิต โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้ดำเนินการจัดทำประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิต ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการอาชีวศึกษาของประเทศไทยสู่การปฏิบัติและผลักดันไปสู่การดำเนินงานที่เป็นระบบชัดเจน โดยหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องจะไปจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ตามระดับการศึกษาและรูปแบบการศึกษาต่อไป ดังนี้
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รูปแบบการศึกษาในระบบ
- กรมส่งเสริมการเรียนรู้ จัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิตระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รูปแบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
- สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิต การอาชีวศึกษา รูปแบบการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาระบบทวิภาคี
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ส่งเสริม การทำความร่วมมือกับหน่วยงาน จัดทำหลักสูตรโรงเรียนนอกระบบ หลักสูตรระยะสั้น เพื่อการสะสมและใช้ในระบบธนาคารหน่วยกิต รวมทั้งจัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานธนาคารหน่วยกิตโรงเรียนเอกชนนอกระบบ
ซึ่งประกาศทั้ง 4 ฉบับ นี้จะออกภายในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 นี้