ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีผู้บริหารสถานศึกษาเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการให้นักเรียนเข้าเรียนทั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและกรุงเทพมหานคร รวมทั้งกรณีข่าวฉาวชู้สาวครู ในพื้นที่จังหวัดลำพูน นั้น กล่าวว่า คุรุสภาได้ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าว โดยประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาแล้วพบว่าบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาแต่งตั้งได้รวบรวมข้อเท็จจริง อาทิ สำเนาสำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริง/สอบสวน และเอกสารพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต้นสังกัด สำเนาสำนวนการสอบสวนคดีอาญาหรือเอกสารอื่นทางคดี รวมถึงสำเนาคำพิพากษาศาล เพื่อใช้ประกอบการชี้มูลการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ และนำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพให้ความเห็น ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาดตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอาจพิจารณาให้พักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อนโดยไม่ต้องรอผลการสอบสวนก็ได้ หากเป็นกรณีที่ถูกกล่าวหา/กล่าวโทษว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรง ส่วนราชการหน่วยงานบังคับบัญชามีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือหน่วยงานบังคับบัญชาที่มิใช่ส่วนราชการให้ออกจากหน้าที่การปฏิบัติงานและมีการแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีอาญาแล้ว เช่น มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้าประเวณีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนหรือนักศึกษา และกรณีถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือทุจริตต่อหน้าที่ เป็นต้น
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการดำเนินการพิจารณาทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ หากพบว่ากรณีใดมีมูลเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพจะพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณ เพื่อดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุอื่น ๆ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา/กล่าวโทษได้รับทราบข้อกล่าวหา/กล่าวโทษและพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งให้โอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา/กล่าวโทษ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา/กล่าวโทษ ก่อนเสนอรายงานผลการสอบสวนต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพพิจารณาให้ความเห็น และเสนอต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาด อย่างไรก็ตามคุรุสภาได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามข่าวพฤติกรรมของครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกวัน หากพบผู้ใดกระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ก็จะพิจารณาโทษอย่างเร่งด่วน เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของเด็ก เยาวชน และประชาชน รวมถึงพิทักษ์เกียรติศักดิ์ศรีของวิชาชีพให้สมกับความเป็นวิชาชีพชั้นสูง
“ขอย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา นักศึกษาวิชาชีพครู และคณาจารย์ในสถาบันผลิตครู พึงตระหนักและให้ความสำคัญอย่างเคร่งครัดกับการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา และต้องป้องกันมิให้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจกระทำฝ่าฝืนจรรยาบรรณของวิชาชีพตามนโยบายของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้ครูเป็นครูที่ดี และจะส่งผลให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข” เลขาธิการคุรุสภากล่าว.