เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์(1977)จำกัด เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และตรวจสอบกรณีตัวอย่างกระดาษที่องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)มอบให้ ไม่ตรงกับทีโออาร์ และกรณีปกหนังสือที่ส่งมาให้สำนักพิมพ์เคลือบและเข้าเล่มไม่ครบจำนวน โดยเฉพาะงานเร่งด่วนตอนนี้คือสำนักพิมพ์ต้องพิมพ์หนังสือเรียนขององค์การค้าฯให้เสร็จ และส่งทันก่อนเปิดภาคเรียน ซึ่งกรณีนี้ บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์ฯไม่สามารถดำเนินการพิมพ์ให้เสร็จทันเวลาได้ จึงขอความเป็นธรรมมาที่พล.ต.อ.เพิ่มพูน ขอขยายเวลาส่งหนังสือเรียนออกไปอีก 15 วัน ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทรุ่งศิลป์ฯได้รับปกหนังสือเพื่อมาทำการเคลือบและเข้าเล่ม ในแต่ละพาเลท มีกระดาษปิดแสดงสถานะของปกหนังสือที่ส่งมา และกำหนดวิธีปฏิบัติสำหรับโรงพิมพ์ ว่าต้องทำการนับจำนวนให้ถูกต้องเสียก่อน ถ้าไม่นับจำนวนให้ถูกต้องแล้วนำไปเคลือบและเข้าเล่มเลย หากเกิดความผิดพลาดสำนักพิมพ์ต้องรับผิดชอบ และจากที่สำนักพิมพ์นับจำนวนปกหนังสือแล้ว ปรากฏว่า ปกหนังสือที่องค์การค้าฯ ส่งมามีจำนวนไม่ครบ ขาดหายไปทุกพาเลท และในแต่ละพาเลทก็ขาดเป็นจำนวนมาก ไม่มีการผลิตมาเผื่อความเสียหาย ซึ่งทางสำนักพิมพ์ก็ได้แจ้งให้หัวหน้าฝ่ายผลิตขององค์การค้าฯทราบ และแจ้งขอให้รับปกหนังสือกลับไป แต่ฝ่ายผลิตขององค์การค้าฯกลับแจ้งให้ทางสำนักพิมพ์ พิมพ์ไปก่อน แต่สำนักพิมพ์เกรงว่าจะเกิดความเสียหายไม่อาจจะรับผิดชอบได้ทั้งหมด เพราะไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุที่จำนวนปกหนังสือไม่ครบจำนวน อันเป็นเหตุให้การพิมพ์หนังสือต้องล่าช้าออกไปอีก อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นหลักฐานจากข้อเท็จจริง เบื้องต้นทางสำนักพิมพ์จึงได้ไปลงบันทึกประจำวัน และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นสักขีพยานในการตรวจนับและตรวจสอบว่าปกหนังสือที่ทางองค์การค้าฯส่งมาไม่ครบจำนวนตามที่ระบุไว้ในแต่ละพาเลท
“ผมได้พยายามเร่งดำเนินการพิมพ์หนังสือให้องค์การค้าฯ โดยได้เพิ่มเวลาทำงานของพนักงาน กำหนดให้พนักงานต้องมาทำงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์และได้มีคำสั่งให้มาทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด แต่กลับพบปัญหาตามที่กล่าวมาข้างต้น อันเป็นเหตุให้ไม่สามารถเร่งผลิตหนังสือให้ทันตามวัน เวลาที่กำหนดได้ อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เกิดปัญหาทางสำนักพิมพ์ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้รับผิดชอบขององค์การค้าฯ แต่ก็ไม่มีคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายระยะเวลาให้กับผู้ร้องแต่อย่างใด ซึ่งทางผู้ร้องเห็นว่าเป็นกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์ฯ จึงมีความจำเป็นต้องมาขอความเป็นธรรมกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน เนื่องจากบริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์ฯมีข้อพิพาทและร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใส และไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับการจ้างพิมพ์หนังสือขององค์การค้าฯในแต่ละปีการศึกษาที่ผ่านมา อีกทั้งยังร้องขอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีหลักฐานว่ากระทำความผิด จึงเกรงว่า หากผู้ร้องปล่อยปละละเลย หรือยอมทำตามไปโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการ จึงเกรงว่าจะกลายเป็นผู้ผิดสัญญา ทั้งที่เป็นฝ่ายที่ปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด”นายนัทธพลพงศ์ กล่าวและว่า ด้วยเหตุผลข้างต้น เป็นสาเหตุสำคัญ และเป็นปัจจัยที่ทำให้การผลิตต้องหยุดลงกลางคัน เพราะไม่อาจแก้ปัญหาให้ยุติลงได้ ซึ่งในแต่ปัญหาก็ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของฝ่ายองค์การค้าฯทั้งสิ้น มิใช่เกิดจากผู้ร้องไม่มีความสามารถพิมพ์หนังสือแบบเรียนได้ตามทีโออาร์ เมื่อพบปัญหาก็ได้เร่งสอบถามเพื่อหาข้อยุติ และดำเนินการพิมพ์หนังสือแบบเรียนต่อไปอย่างรวดเร็ว แต่ในบางปัญหาต้องรอคำยืนยันและวิธีแก้ไข จากฝ่ายผลิตขององค์การค้าฯ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การ พิมพ์หนังสือเรียน ล่าช้าออกไป ไม่สามารถดำเนินการตามแผนงานได้ เพราะต้องใช้ทั้งระยะเวลา และกำลังคนงานนับจำนวนปกหนังสือที่องค์การค้าฯส่งมาให้ ก่อนที่จะนำไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์ฯจะเร่งพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าฯให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ขอให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ได้ตรวจสอบกระดาษที่องค์การค้าฯมอบให้ไม่ตรงกับทีโออาร์ และกรณีปกหนังสือส่งมาให้สำนักพิมพ์ไม่ครบด้วย และขอให้มีบัญชาไปยัง องค์การค้าฯพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง โดยมีหนังสือยืนยันมายังผู้ร้องด้วยว่าจะขยายระยะเวลาให้เป็นเวลาตามที่ขอโดยเร็ว และหากทางผู้ร้องมิได้รับการพิจารณาให้ขยายระยะเวลาตามที่ขอ เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ร้องมิให้ต้องตกเป็นผู้ผิดสัญญา ทางผู้ร้องก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามชั้นตอนของกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อไป