เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 ที่บริเวณสนามหญ้ากระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ พิธีทำบุญตักบาตร และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 132 ปี วันที่ 1 เมษายน 2567 โดย มีผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมในพิธี จากนั้นที่หอประชุมคุรุสภา รมว.ศึกษาธิการ ได้อ่านสารนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์แก่กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2567 รวมถึงมอบรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2566
โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับกระทรวงศึกษาธิการ เพราะถ้าดูจากผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาจะพบว่ายังมีความเหลื่อมล้ำอยู่ เพราะฉะนั้นเราจะต้องช่วยกันทำให้การศึกษาลดความเหลื่อมล้ำ ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกัน จริง ๆแล้วจะบอกว่าการศึกษาไม่มีคุณภาพก็ไม่ใช่ เพราะที่ดีก็มีอยู่มากซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OEDC เสียอีก แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอีกกลุ่มที่ยังไม่ถึงมาตรฐานนั้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็เห็นความสำคัญ จึงให้การสนับสนุนเรื่องการลดภาระครู โดยสนับสนุนงบฯจ้างนักการภารโรง เพื่อลดภาระครูให้ครูมีเวลาอยู่กับนักเรียนมากขึ้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ นายกฯยังเห็นชอบอนุมัติงบฯค่าอาหารกลางวันกว่า 2.9 พันล้าน ให้นักเรียน ชั้น ม.1- ม.3 ในโรงเรียนขยายโอกาส เพราะเมื่อดูจากผลการประเมินโรงเรียนขยายโอกาสแล้วพบว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ในกลุ่มต่ำสุด แสดงให้เห็นว่า อาหารการกินก็เป็นปัจจัยสำคัญด้วย เด็กกลุ่มนี้ขาดโอกาสที่จะได้รับสารอาหารที่ดีมีคุณภาพ จึงส่งผลให้มาตรฐานการศึกษาต่ำไปด้วย อีกทั้งเด็กโรงเรียนขยายโอกาสก็เป็นเด็กที่มีความเหลื่อมล้ำ ผู้ปกครองมีฐานะไม่ดีพอที่จะสนับสนุนอาหารกลางวันที่มีคุณภาพให้เด็กได้ ดังนั้นจึงต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการด้วยดี อย่างไรก็ตามวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ส่งสารเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงให้ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้ขอบคุณพวกเราทุกคนที่ช่วยกันพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้นด้วย