เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เป็นประธานในพิธีเปิดการแถลงข่าวงาน “เกษตรนวัตกรรมอารยธรรมล้านนา อาชีวะ เกษตรแฟร์” การประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 44 (Future Farmer of Thailand : FFT.44) โดยมี ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา เข้าร่วมงาน ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน
นายยศพล กล่าวว่า การจัดงานเกษตรนวัตกรรม อารยธรรมล้านนา อาชีวะ เกษตรแฟร์ครั้งที่ 44 การประชุมวิชาการระดับชาติองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 44 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 24-28 มกราคม พ.ศ. 2567 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน มีความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ คือ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเป็นองค์ประธานเปิดงานการประชุมวิชาการ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับชาติครั้งที่ 44 ในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นครั้งที่ 34 ที่เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในการเปิดการประชุมวิชาการ อกท.ระดับชาติ และพระราชทานโล่ให้กับหน่วย อกท.ดีเด่นระดับชาติ, สมาชิก อกท.ดีเด่นระดับชาติ, ศิษย์เก่า อกท.ดีเด่นระดับชาติ, เข็มที่ระลึกผู้ทำคุณประโยชน์ และสมทบทุนมูลนิธิ อกท. เสด็จทอดพระเนตรกิจกรรม อกท. และรับฟังการสัมมนาผลงานทางวิชาการของสมาชิก อกท. ทรงปลูกต้นไม้ โดยต้นไม้ทรงปลูก ได้แก่ ต้นคำมอกหลวง และฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงาน อกท. ระดับชาติ โดยมีการถ่ายทอดสด พิธีเปิดการประชุมวิชาการอกท.ครั้งที่ 44 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม2567
“เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาวิชาทางด้านการเกษตร ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ พัฒนาการเรียนการสอน ที่เข้าสู่สายวิชาชีพทางการเกษตร โดยการเรียนการสอนจะเป็นในรูปแบบLearning by doing มองนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเป็นศูนย์กลาง นอกจากจะได้ทฤษฎีความรู้จากทางครูผู้เชี่ยวชาญในแต่ละวิชาและผู้บริหารแล้ว ยังได้โอกาสในการแสดงศักยภาพ และมุ่งเน้นในการขยายและยกระดับอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี (DVE for all) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 8 Agenda ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทำให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา สามารถนำเทคโนโลยี วิทยาการด้านการเกษตรที่ทันสมัย และความรู้ต่างๆ ของผู้ประกอบการภาคเอกชน มาใช้ในการเรียนการสอน”เลขาธิการ กอศ. กล่าวและว่า ที่ผ่านมา สอศ. มีโอกาสในการทำ MOU ระบบทวิภาคีกับภาคเอกชนในประเทศ และในระดับนานาชาติ เช่น การส่งนักศึกษาไปฝึกงานในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ อิสราเอล ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เป็นต้น ทำให้สามารถผลิตนักเรียนนักศึกษาอาชีวศึกษา สู่การเป็นนวัตกรและบุคลากรที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านการเกษตรให้กับประเทศไทย และไปสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติได้ ซึ่งคือเป้าหมายที่ได้วางไว้สำหรับผู้ที่เข้ามาเรียนทางด้านการเกษตรกับสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ขอให้ทุกคน มุ่งมั่นและเชื่อมั่น ว่าการเรียนการสอนของอาชีวะ โดยเฉพาะภาคเกษตร มีการพัฒนา มีความก้าวหน้า สร้างความมั่นคงให้กับผู้ที่เข้าเรียนได้ มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ สามารถต่อยอดการศึกษาไปถึงระดับปริญญาตรีปริญญาโท และปริญญาเอกได้
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีความน่าสนใจ คือ การแข่งขันทักษะทางวิชาชีพ มีการแข่งขันทักษะ 8 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาพืชศาสตร์ สาขาสัตวศาสตร์ สาขาช่างกลเกษตร สาขาประมง สาขาศิลปะเกษตร สาขาอุตสาหกรรมเกษตร สาขาบริหารธุรกิจ สาขาพื้นฐานกิจกรรมการสัมมนาผลงานทางวิชาการ ของนักศึกษาสมาชิก อกท. ที่มีผลงานดีเด่นจาก ทั้ง 4 ภาค ด้านเทคโนโลยีทางการเกษตร ด้านการประมงทางด้านสัตวศาสตร์และด้านอื่น ๆ จะมีการพิจารณาคัดเลือกผลงานด้านการวิจัย และโครงการวิชาชีพจำนวน 1 เรื่อง เพื่อนำเสนอผลงานต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดนิทรรศการทางการเกษตรของหน่วย อกท. ซึ่งเป็นการแสดงผลงานทางด้านการเกษตรของหน่วยตัวแทน อกท. ทั้ง4 ภาค การประกวดสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ โดยคัดเลือกผลงานสิ่งประดิษฐ์จาก หน่วยอกท. ทั้ง 4 ภาค และการประกวดการแสดงนันทนาการ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทย ของนักศึกษาสมาชิก อกท. ทั้ง 4 ภาค ในปีนี้ นอกจากสมาชิก อกท.ทุกหน่วยมาร่วมกิจกรรมการประชุมวิชาการ อกท. ครั้งที่ 44 แล้ว ยังมีสมาชิก อกท.จากต่างประเทศ อันประกอบด้วย Future Farmers of Korea (FFK.) ประเทศเกาหลีใต้และFuture Farmers of Japan (FFJ.) ประเทศญี่ปุ่น มาร่วมกิจกรรมด้วย
