เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวประเทศเมียนมา ซึ่งห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือราว 100 กิโลเมตร วัดแรงสั่นได้ขนาด 6.4 ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และทำให้ได้รับแรงสะเทือนหลายจังหวัดทางภาคเหนือของไทย ว่า ตนขอชื่นชมเด็กนักเรียนและคุณครูในโรงเรียนหลาย ๆ แห่ง ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปฏิบัติตามขั้นตอนแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างดี ทั้งการอพยพนักเรียนออกจากอาคารเรียน หรือหากไม่สามารถออกไปพื้นที่โล่งแจ้งได้ ก็อยู่ในพื้นที่ที่แข็งแรงและปลอดภัย เมื่อเหตุการณ์ปกติก็กลับไปทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนมีการเตรียมแผนป้องกัน และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุให้ครูและนักเรียนอยู่เสมอ จนสามารถปฏิบัติตนได้รอดปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์จริง จึงอยากให้โรงเรียนเหล่านี้เป็นต้นแบบของโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นพี่เลี้ยงช่วยกันซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกัน ตลอดจนขยายผลเป็นต้นแบบของโรงเรียนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวพบว่ามีสถานศึกษาหลายแห่งได้รับผลกระทบ โดยโรงเรียน 2 แห่ง ได้รับความเสียหาย คือ โรงเรียนเมืองขอน อ.สันทราย และโรงเรียนวัดหนองออน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พบว่ามีโครงสร้างอาคารเรียนเสียหายและเสาอาคารแตกร้าว รวมทั้งพบอาคารเรียนของโรงเรียนอีก 28 แห่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจ.เชียงราย ได้รับความเสียหายเล็กน้อย จึงได้เร่งสั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของบุคลากรและอาคารสถานที่ โดยกำชับให้ดูแลและให้การช่วยเหลือนักเรียนและบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารเรียน พร้อมดูแลช่วยเหลือครูนักเรียนจนกว่าจะได้รับความปลอดภัยอย่างดีที่สุด
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษาทั่วประเทศ จึงได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัดทุกภาคส่วนตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของอาคารเรียนและสิ่งก่อสร้างในสถานศึกษาอย่างเข้มงวด หากพบสิ่งที่ชำรุดเสียหายหรืออาจก่อให้เกิดเหตุความไม่ปลอดภัยต้องดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้ปลอดภัย จัดทำแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมมาตรการความปลอดภัย ของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอยู่เสมอ การเตรียมแผนรับมือกับภัยธรรมชาติในพื้นที่ รวมถึงการให้ความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์ความปลอดภัยกระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นช่องทางสำหรับการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา เพื่อช่วยประสานงาน ดูแล แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมแรง ร่วมมือ ร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สอดรับกับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ทำโรงเรียนให้เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนทุกคน
