เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกภาคเรียนที่ 2 /2566 ของโรงเรียนส่วนใหญ่ ซึ่งตนมีความห่วงใยเรื่องของสิ่งเสพติดในสถานศึกษา จึงได้กำชับให้ผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงานในกำกับทุกสังกัดให้ตรวจตราบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติดอย่างเข้มข้นทั้งภายในและบริเวณรอบสถานศึกษา เพื่อป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพิ่มมาตรการที่เข้มแข็งปกป้องเยาวชนจากสิ่งเสพติด ตลอดจนสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายและผลกระทบของยาเสพติด ให้เกิดการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของ นักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำและกำชับสถานศึกษามาโดยตลอดว่า ต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยจากสารเสพติดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า สารเสพติด รวมถึงสารอื่นที่ทำให้มึนเมา แต่ปัจจุบันเด็กเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น จึงต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ที่สำคัญมีบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ผลักดันจนเกิดนโยบาย “โรงเรียนปลอดบุหรี่” โดยสถานศึกษามีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างมาตรการจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ที่ได้กำหนดให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาต้องเป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด ดังนั้นครูผู้อยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุดในโรงเรียนจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการปลูกฝังค่านิยม ปรับทัศนคติที่ถูกต้อง สร้างการเห็นคุณค่าในตัวเอง ให้เยาวชนตระหนักรู้ถึงโทษและพิษภัยจากการสูบบุหรี่และสิ่งเสพติดชนิดอื่น ให้นักเรียนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโรงเรียนปลอดบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจเป็นประตูเชื่อมให้เยาวชนไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นได้
“กระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรณรงค์ป้องกันเด็กและเยาวชนในการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติดทุกชนิด ที่สำคัญคือครูและผู้ปกครองซึ่งเป็นด่านแรกที่คลุกคลีใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด เป็นแบบอย่างที่ดี คอยสอดส่องสร้างภูมิคุ้มกันอย่างใกล้ชิดไม่ให้อบายมุขเข้ามาส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สภาพจิตใจ และอารมณ์ รวมถึงปลูกฝังให้เยาวชนมีทักษะในการปฏิเสธบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติด ช่วยกันสร้างเยาวชนที่เข้มแข็งมีความสุขในการเรียนและการใช้ชีวิต” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว