*** ทุกเส้นทางถูกลิขิตไว้แล้ว แต่ทางที่เลือกเดินขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง *** หยอก หยอก วันที่ 7 ตุลาคม 2566 *** ผ่านไปแล้วกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูง ระดับ 11 จำนวน 4 ราย คือ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็น ปลัด ศธ. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. เป็น เลขาธิการ สกศ. และ นายยศพล เวณุโกเศศ รองปลัด ศธ. เป็น เลขาธิการ กอศ. ต่อไปรอลุ้นระดับ 10 ซึ่งอาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ได้อีก…แม้จะมีดราม่ากันบ้างเป็นธรรมดาของโยกย้าย แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี *** หยอก หยอก ขอเป็นกำลังใจให้ผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งใหม่ ทำงานโดยสุจริต สมกับเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว…นะจ๊ะนะจ๊ะ *** ปรับโหมดดับเบิ้ลช็อกกับข่าวที่ว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ส่งหนังสือมาถึงหน่วยงานในกำกับกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการที่กระทำความผิดและให้ชดใช้ค่าเสียหาย กรณีทุจริตในการจัดซื้อครุภัณฑ์ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 : ไทยเข้มแข็ง หรือ เอสพี 2 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ประจำปีงบประมาณ 2553 ที่มีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและตรวจรับครุภัณฑ์ที่ส่วนกลางทั้งหมด แล้วให้บริษัทส่งครุภัณฑ์ไปให้สถานศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครุภัณฑ์ที่สถานศึกษาไม่ต้องการ เนื่องจากไม่ตรงตามหลักสูตรที่สอนและไม่มีครูผู้สอน ที่สำคัญครุภัณฑ์ที่จัดซื้อจากส่วนกลางมีราคาแพงมากกว่าเท่าตัว และตอนนี้ครุภัณฑ์ดังกล่าวก็ยังกองทิ้งไว้เฉย ๆ ที่สถานศึกษาไม่มีใครกล้าใช้ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อราชการ *** แว่วมาว่ามีข้าราชการทั้งที่เกษียณอายุราชการและยังไม่เกษียณอายุราชการเข้าข่ายกระทำความผิดกว่า 100 คน โดย 90% ถูกดำเนินคดีอาญา และที่ช็อก ช็อก ช็อก มากกว่าก็คือ มีข้อความระบุในหนังสือด้วยว่า “ไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก และให้สั่งลงโทษตามฐานความผิดต่างกรรมต่างวาระภายใน 30 วัน” … สำหรับคนที่เกษียณอายุราชการเกิน 3 ปี ว่ากันว่าให้ส่งเรื่องไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องศาลอาญา *** เรื่องนี้หยอก หยอกพูดได้แต่ว่า พระเจ้าช่วย กล้วยทอด *** เรื่องของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ยังไม่มีเพียงข่าวนี้ ยังมีเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่เริ่มโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา สร้างบนพื้นที่ วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สมัยนายบรรหาร ศิลปะอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการถึง 6 ครั้ง เอื้อประโยชน์ให้เอกชนโดยไม่ปรับลดราคาลงตามรูปแบบรายการ และยังมีอีกหลายประเด็นในการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข่าวว่าป.ป.ช.ชี้มูลความผิดตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน มีจำนวน 27 คน ล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งน้านนน…งานนี้ ยศพล เวณุโกเศศ เลขาอาชีวะป้ายแดง ต้องทำงานหนักแล้วล่ะ! ตัวอย่างสนามฟุตซอลก็น่าจะเป็นบทเรียนให้ข้าราชการระวังตัว เพราะล่าสุดศาลตัดสินให้ข้าราชการติดคุกไปแล้ว *** หยอกหยอก ก็ได้แต่ขอเตือนว่าที่จะทำกันอยู่ก็ขอให้ระวังตัว แม้เราจะคิดว่าทำถูกต้องตามระเบียบ ก็ให้คิดถึงกฎหมายของ ป.ป.ช.ด้วย *** สุดท้าย มีคนส่งเรื่องมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ ศธ.รับผิดชอบเขตตรวจราชการใหม่ โดย “อรรถพล สังขวาสี” อดีตปลัด ศธ.เป็นผู้ลงนาม สอบถามให้แล้วทราบมาว่า สำนักตรวจราชการ ศธ. ที่ ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการ ศธ.จัดประชุมผู้ตรวจฯ เพื่อแบ่งงานตรวจราชการของสำนักตรวจราชการประจำปี ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แต่ละปีจะต้องหมุนเวียนงานตรวจราชการ และมีผู้ตรวจราชการเข้ามาใหม่ จึงได้เสนอรายชื่อผู้ตรวจราชการมาให้เซ็นในฐานะที่ยังอยู่ในตำแหน่งปลัด.ศธ. ไม่ได้ทิ้งทวนอะไร…สอบถามให้แล้วเด้อจร้า…***
Subscribe
0 Comments
Oldest