เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า จากการมอบนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาด้วย โดยกล่าวว่าประเทศไทยจะต้องเป็นสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นสังคมที่รักการอ่าน มีการพัฒนาทั้งนักเรียน ทั้งครู และทำให้หลักสูตรมีความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ และอาจรวมถึงการทำให้ลดปริมาณงาน การเรียน การบ้าน และปัจจัยอื่น ๆ สำหรับหลายส่วนในภาคการศึกษา
โฆษก ศธ. กล่าวว่า ในส่วนของ ศธ.ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายสำคัญที่สอดรับกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการเป็นสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” จัดทำหลักสูตรที่ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา(1นักเรียน1 Tablet) และส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดการศึกษา อีกทั้งยังมีการฝึกทักษะอาชีพเพื่อให้ผู้เรียนมีรายได้ระหว่างเรียน นอกจากนี้ยังมีการนำแพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งชาติมาผสมผสานการเรียนการสอนแบบเดิมในห้องเรียนกับการเรียนการสอนออนไลน์ (Hybrid Education) ผู้เรียนจะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน และขยายการเรียนรู้ไปถึงประชาชนทุกช่วงวัยทั่วประเทศให้มีโอกาสทางการศึกษา เข้าถึงเนื้อหาสาระที่มีคุณภาพ ตลอดจนพัฒนาการศึกษาผ่านระบบการสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนและประชาชนได้เรียนและทำงานไปในเวลาเดียวกัน
“เราจะร่วมมือกันทำงานแบบ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” โดยเน้นนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ซึ่งการเรียนการสอนจำเป็นต้องเริ่มจากความสุขของผู้เรียน ผู้สอน ไปจนถึงผู้ปกครอง เพราะเมื่อมีความสุข ก็จะส่งผลให้การเรียนดีขึ้น และเมื่อการเรียนดีขึ้น ก็จะส่งผลกลับมาทำให้รู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น สามารถบรรลุเป้าหมายการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ.” นายสิริพงศ์กล่าว