เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยกรณีสื่อสำนักหนึ่งพาดหัวข่าวการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เมืองโบราณศรีเทพ ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงในรัฐบาลเศรษฐา 1 จนโดนกระแสตีกลับจากสังคม ว่าเป็นการชุบมือเปิบเอาผลงานมาเป็นของตัวเอง ทั้งนี้เนื่องจากการเสนอเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2562 ในรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ นายเสริมศักดิ์ ชี้แจงและทำความเข้าใจ ว่า มีผู้สื่อข่าวมาถามนำมาว่า การที่เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นผลงานรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งในความเข้าใจของตนนั้น หมายถึงรัฐบาลทุกชุดที่ร่วมดำเนินการมา จนถึงรัฐบาลชุดนี้ที่ทำงานต่อเนื่องกัน เพราะถือเป็นตัวแทนประเทศไทยที่นำมาเพื่อความสำเร็จในครั้งนี้ จึงตอบไปว่า ใช่ เป็นของรัฐบาล และไม่ได้หมายความระบุเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลชุดนี้ตามที่เป็นข่าว ซึ่งงานมรดกโลกเป็นงานสำคัญของประเทศมีการสานต่องานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจร่วมกัน และด้วยระยะเวลาการสัมภาษณ์ที่จำกัด จึงทำให้ไม่ได้มีการอธิบายรายละเอียดให้มากกว่านี้
“ผมมีความเคารพและชื่นชมในความพยายาม ความร่วมมือในการผลักดันเมืองศรีเทพเป็นมรดกโลกอย่างแท้จริง ไม่มีเจตนาใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ที่สำคัญต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่เริ่มต้นมาด้วยดี รวมไปถึงคณะทำงานทุกท่าน กรมศิลปากร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน ที่ผนึกกำลังร่วมกันในการอนุรักษ์ และพัฒนาเมืองศรีเทพให้ไปสู่มรดกโลกแห่งที่ 7 ของประเทศไทย ทั้งนี้รัฐบาลชุดนี้ พร้อมต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อจะสร้างประโยชน์ สร้างงาน สร้างรายได้ ด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างความร่วมมือร่วมใจ ในการจัดทำแผนบริหารจัดการ และประชาสัมพันธ์เมืองโบราณศรีเทพ ผลักดันให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น พร้อมยกระดับทำให้เมืองโบราณศรีเทพเป็นเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งของไทยให้ได้”รมว.วัฒนธรรม กล่าว