เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ตนได้มอบหมายให้ผู้บริหาร ศธ. ไปจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้เห็นภาพการทำงานที่ชัดเจน ส่วนเรื่องการแบ่งงาน ระหว่างตนกับนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นั้น ยังไม่ได้ดำเนินการ ต้องหารือกับ นายสุรศักดิ์ ก่อนว่ารักและอยากทำอะไร เพราะหากเราทำอะไรด้วยความรักและความอยากทำ งานทุกอย่างจะออกมาดี
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงแทนอัตราว่าง และผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งปีนี้มี ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญจะเกษียณฯด้วยนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้พิจารณา เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมีความละเอียดรอบคอบ โดยตอนนี้ยังไม่มีใครในใจ ซึ่งอาจเป็นข้อดี เพราะตนไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษา ดังนั้นจึงไม่รู้จักใคร เป็นเหมือนผ้าขาว
“การแต่งตั้งใครให้ดำรงตำแหน่งใด ต้องมีความละเอียดรอบคอบ เหมือนเลือกแฟนซึ่งต้องศึกษา ไม่ใช่ว่ามีรถเก๋งขับมาหา เอาเงินมาให้ใช้ คงไม่ใช่ เพราะฉะนั้นต้องศึกษาและทำงานร่วมกันเพื่อดูฝีมือ เบื้องต้นได้ให้ทุกคนแสดงวิสัยทัศน์ หากใครอยากอยู่ที่เดิม หรืออยากย้ายไปที่ใดก็ต้องแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อดูแนวความคิดว่า เหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ หลังจากนั้นก็ต้องมีการเช็กประวัติว่าดีจริงหรือไม่ ถ้าเป็นภาษาตำรวจ จะใช้คำว่า นายดึง ลูกน้องดัน เพื่อนสนับสนุน โดยสเป็กส่วนตัวของผม เริ่มแรก ต้องมีฉันทะ มีความรักในงานที่ทำ ซึ่งทุกคนต้องแสดงตัวให้ผมเห็นผลงาน และนิสัยผมไม่มีใครมาขออะไรผมได้ ส่วนจะมีกรอบเวลาในการทำงานร่วมกันเท่าไร จึงจะตัดสินใจนั้น ไม่สามารถบอกได้ แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบการทำงาน เพราะสามารถตั้งรักษาราชการแทน เพื่อมาทำงานต่อเนื่องได้ ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
