เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาของประเทศไทย ในระดับภูมิภาค โดยมี ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.), ผู้บริหารระดับสูง ศธ., ศึกษาธิการภาค และศึกษาธิการจังหวัด เข้าร่วม
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ศธ.บริหารจัดการศึกษาตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ภายในปี 2570 ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีทักษะที่จำเป็น พร้อมเรียนรู้ตลอดชีวิต และปรับตัวสอดคล้องกับวิถีชีวิตโลกยุคใหม่” ซึ่งการที่จะทำให้ภารกิจดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จตามภารกิจได้นั้น ก็ด้วยความเข้มแข็ง รวมถึงการบูรณาการทำงานของหน่วยงานปฏิบัติทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาภารกิจด้านการศึกษา ให้สามารถเข้าถึงผู้เรียนได้โดยตรง
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ. ในภูมิภาค ใช้กลไกการบริหารและการจัดการศึกษาผ่านสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 18 แห่ง และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) 77 แห่ง โดยเป็นหน่วยงานหลักที่เชื่อมโยงกับการทำงานของหน่วยงานการศึกษาในระดับพื้นที่ เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ถือเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศึกษาแบบบูรณาการและมีส่วนร่วม สอดประสานการทำงานร่วมกันในเชิงระบบแบบสร้างสรรค์ในพื้นที่ทั้งระดับภาคและระดับจังหวัด โดยใช้กลไกคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) โดยมองไปที่เป้าหมาย “คุณภาพผู้เรียน” เป็นหลัก เน้นบูรณาการการเรียนการสอนแบบ Active Learning และการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนแต่ละด้านอาจแตกต่างกันได้ตามสภาพแต่ละพื้นที่ หรือเปรียบเสมือนที่เราต้องตัดเสื้อสูทเข้ารูปที่เหมาะสมให้ เด็กถนัดกีฬา ก็ส่งเสริมเรื่องกีฬา, ถนัดศิลปะ ก็เน้นส่งเสริมศิลปะ ไม่เน้นแต่ด้านวิชาการให้เด็กอย่างเดียวอีกต่อไป
“ขอให้ ศธภ./ศธจ. นำระบบดิจิทัลต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ในหน่วยงานให้มีระบบบริหารจัดการที่คล่องตัว มีประสิทธิภาพ ยึดหลักธรรมาภิบาล หาจุดแข็งเพื่อสร้างกลไกบริหารและการประสานงานการจัดการศึกษากับส่วนกลางและในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จัดทำนโยบาย แผน มาตรฐานและการติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาที่หน่วยปฏิบัติสามารถนำไปบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกส่วนที่สำคัญมากคือ ฐานข้อมูล สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลส่วนกลาง และอื่นๆ ได้อย่างดี รวมทั้งเว็บไซต์หลักของหน่วยงานต้องทันสมัย น่าเชื่อถือ ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลของหน่วยงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว”ดร.คุณหญิงกัลยากล่าวและว่า ขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทุกระดับที่ได้จัดการประชุมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้ทบทวน ปรับปรุง ออกแบบแผนการดำเนินงาน กลไก เทคนิค รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา รวมทั้งเตรียมการขับเคลื่อนชุดโครงการสำคัญในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้ตอบสนองต่อเป้าหมายของชาติและแผนพัฒนาพื้นที่ภายใต้บริบทของแต่ละพื้นที่ เป็นการสร้างแรงกระตุ้นในการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ นำพาประเทศไปสู่อนาคตที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนต่อไป