นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.)ว่า ข้อมูลล่าสุด โครงการฯ 2-7 ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 มีลูกหนี้ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL จำนวน 6,592 คน ซึ่งถือว่าลดลงจากเดิมเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว โดยเหตุผลหลัก เพราะการมีโครงการปรับโครงสร้างหนี้หลายรอบ ตั้งแต่รอบแรกวันที่ 9 ก.พ.61 ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และธนาคารออมสิน รวมกันแก้ปัญหา จึงเกิดเป็นโครงการปรับโครงสร้างหนี้ โดยให้ครูกู้ได้ 700,000 บาท ลดดอกเบี้ยเหลือ 4% ปรากฏว่ามีครูเข้าร่วมโครงการเพียง 1,850 คน ซึ่งถือว่าไม่มาก เพราะส่วนหนึ่งมีหนี้มากกว่า 700,000 บาท จึงไม่สามารถเข้าโครงการได้
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้ยกเลิกการจ่ายเงินเข้ากองทุนสนับสนุนพิเศษตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. เพื่อนำไปลดดอกเบี้ยให้ครู พบว่า มีครูได้รับประโยชน์ถึง383,703 คน ไม่ได้รับประโยชน์ 52,273 คน ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า การที่มีครูไม่ได้รับประโยชน์ถึง 5 หมื่นกว่าคนนั้น เป็นเพราะมีกรณีค้างชำระหนี้ไตรมาสอยู่ ซึ่งกรณีนี้หากสามารถเคลียร์หนี้ให้เป็นปัจจุบันได้ก็จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน โดยครูกลุ่มนี้จะต้องไปเจรจากับธนาคารออมสินเพื่อเคลียร์หนี้ก่อน นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้จึงยังไม่ได้รับสิทธิ์ ขณะที่บางส่วนก็ไม่มาปรับโครงสร้าง บ้างก็ติดต่อไม่ได้เลย และบางส่วนก็อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง
“ทั้งนี้พบว่า ส่วนใหญ่ครูไม่ได้แจ้งความจำนงว่าที่ให้ลดดอกเบี้ยนั้น จะให้นำไปลดเงินผ่อนหรือไม่ ซึ่งเมื่อครูไม่ได้แจ้งทางธนาคารก็ยังคงหักเงินงวดเท่าเดิม แต่ถ้าได้ดูใบเสร็จจะเห็นว่าจำนวนเงินต้นที่ธนาคารหักนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ครูสามารถชำระหนี้หมดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามหากครูคิดว่าตนเองยังเป็นภาระผ่อนค่างวดสูงอยู่ ก็สามารถติดต่อไปที่ธนาคารออมสินเพื่อให้นำดอกเบี้ยมาลดยอดเงินผ่อนแต่ละงวดก็ได้”นายอรรถพลกล่าวและว่า สำหรับกรณีคนที่ตามตัวไม่เจอนั้น ถือว่า มีไม่มากนัก ซึ่ง สกสค.ก็ได้มอบหมายให้ สกสค.จังหวัดติดตามอยู่ พร้อมตรวจสอบข้อมูลทายาทว่าใครคือผู้รับเงินสงเคราะห์รายศพกรณีครูเสียชีวิต พร้อมทั้งเปลี่ยนนโยบายการเก็บเงินสงเคราะห์รายศพ ช.พ.ค., ช.พ.ส. ที่ที่ผ่านมาหากมีการค้างชำระก็จะติดตามแต่เจ้าตัว ซึ่งบางคนอาจมีเหตุผลความจำเป็นไม่สามารถมาชำระได้จนบางคนก็ถูกจำหน่ายชื่อออก ดังนั้น ตอนนี้ได้ให้ชะลอวิธีการนี้ แล้วไปสำรวจว่าใครคือผู้ได้รับประโยชน์แล้วให้ไปตามกับคนนั้น ซึ่งก็ได้ผลการเก็บเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เลขาธิการ สกสค. กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ ครูสอบถามเข้ามามากว่า ได้รับหนังสือจากบริษัท ทิพยประกันภัย แจ้งให้ต่อสัญญาประกันสินเชื่อ ว่า สกสค.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็นกับหนังสือดังกล่าว และขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างประชุมร่วมกับธนาคารออมสินกรณีการประกันสินเชื่อโครงการ 6 และ 7 ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ โดยจะมีการหารืออีกครั้งหลังวันที่ 12 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าเรื่องการทำประกันสินเชื่อเป็นเรื่องของความสมัครใจที่ครูต้องตัดสินใจเองไม่มีสภาพบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น