เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2566 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ในฐานะหน่วยงานด้านการส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ ขอเชิญชวน นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ รวมทั้งผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าร่วมมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 (Thailand Research Expo 2023) ในหัวข้อ “วิจัยไทยก้าวไกล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน”ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าว สพฐ. คาดหวังว่านักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสพฐ. จะให้ความสนใจในการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เนื่องจากการจัดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566 เป็นเวทีระดับชาติที่นำเสนอความก้าวหน้าผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อเชื่อมโยงบูรณาการองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ทั้งในมิติเชิงวิชาการ นโยบาย สังคม ชุมชน และพาณิชย์/อุตสาหกรรม ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมจะช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี นักเรียนก็จะได้รับแรงบันดาลใจในการทำวิจัย การพัฒนาโครงงาน ได้เห็นไอเดีย และมุมมองใหม่ ได้เข้าร่วมการฟังบรรยายที่เป็นประโยชน์ และได้ต่อยอดองค์ความรู้และแนวคิดใหม่ๆ ในการกลับไปสร้างสรรค์ชิ้นงานผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และสิ่งสำคัญคือการได้รับการปลูกฝังจิตวิญญาณของการเป็นนักคิด นักประดิษฐ์และนักวิจัยที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ส่วนครูก็จะได้พัฒนาองค์ความรู้ด้านการวิจัย ผลจากการวิจัย และทิศทางการวิจัยในอนาคต ประสบการณ์เข้าในการเข้าร่วมงานครั้งนี้ของครูจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างมากในการที่ครูจะใช้เป็นตัวอย่างในการจัดการเรียนการสอน ต่อยอดความรู้ ความคิด ในการให้คำปรึกษาและเป็นโค๊ซในการทำวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมของนักเรียน ผู้บริหารจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ รวมทั้งแนวคิดในการทำวิจัย และแนวทางในการปรับประยุกต์ใช้ในโรงเรียน และการต่อยอดไปสู่นโยบายการส่งเสริมการวิจัยของโรงเรียนด้วยในอนาคต
รองเลขาธิการกพฐ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนยังได้เป็นประธานประชุมคณะทำงานสนับสนุนการปฏิบัติงานของโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1/2566 ผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อชี้แจงนโยบายและแนวทางการดําเนินงานให้คณะกรรมการฯ รับทราบ รวมถึงเพื่อสร้างและพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ให้เข้มแข็งครอบคลุมทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างขวัญกําลังใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้รูปแบบแนวทางในการทํางาน ซึ่งการประชาสัมพันธ์ ต้องสื่อสารภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรให้บุคคลภายนอกได้รับรู้ ภารกิจที่ได้ร่วมมือกันขับเคลื่อน สิ่งที่ สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และโรงเรียนได้ทำและประสบความสำเร็จ ล้วนได้รับการยอมรับว่า มีคุณภาพและมีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเราต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้บุคคลหรือองค์กรภายนอกได้รับรู้ ผ่านเครือข่ายสำคัญที่เรามีอยู่ คือ ทีมประชาสัมพันธ์ของเขตพื้นที่ โรงเรียน และเพิ่มเติมด้วยเครือข่ายเอกชน ในการช่วยประชาสัมพันธ์ผ่าน content ออนไลน์รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube Instagram TikTok สื่อโทรทัศน์ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสื่อสารออกไปได้เร็วและเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น เป็นการช่วยสื่อสารสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ สพฐ. ทั้งภาพความสำเร็จของโรงเรียนและนักเรียน ทั้งในเวทีระดับชาติ ระดับโลก ที่สำคัญที่สุดก็คือการสร้างและส่งเสริมคนดี
