เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายนิรุตติ สุทธินนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงศึกษาธิการ, ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายคมกฤช จันทร์ขจร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้, นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น โครงการพาน้องกลับมาเรียน โครงการสถานศึกษาปลอดภัย การพัฒนาทักษะอาชีพและพัฒนาศักยภาพพลเมืองสู่ตลาดแรงงาน การจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร พร้อมเยี่ยมชมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย Co-learning Space แหล่งเรียนรู้มีชีวิต ณ ห้องสมุดประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับ

น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า จากการเยี่ยมชมกิจกรรมต่าง ๆ วันนี้ ได้เห็นถึงความตั้งใจในการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ co learning space ซึ่งเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ในห้องสมุดในมิติใหม่ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน ทั้งการแบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน เช่น Working Zone โซนส่งเสริมการอ่าน โซน IT โซนกิจกรรม โซนผ่อนคลาย และโซนร้านกาแฟ ซึ่งเป็นการทำให้ประชาชนได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากห้องสมุดซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และยังเป็นทำให้ประชาชนมีความสนใจในการใช้บริการจากห้องสมุดมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีกิจกรรมของผู้สูงอายุ ทั้งกิจกรรมสันทนาการ และการฝึกอาชีพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ ผ่านการดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษาตลอดชีวิตของสถานศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาสมรรถนะของผู้สูงอายุ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้ผู้สูงอายุได้มีการพัฒนาและคงสมรรถนะในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี เพื่อคงคุณภาพชีวิตที่ดีในการใช้ชีวิตในสังคมผู้สูงอายุต่อไปในอนาคต

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นโยบายพาน้องกลับมาเรียนและ กศน.ปักหมุด เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ ในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางการศึกษา ขอขอบคุณ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ทำงานหนักในการติดตามลงพื้นที่ค้นหาเด็กที่ตกหล่นที่หลุดออกจากระบบการศึกษา และนำเด็กเหล่านี้เข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ขอชื่นชมสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้นำนักเรียนที่ตกหล่นกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาเป็นจำนวนมาก และดูแล ส่งเสริมสนับสนุนเด็กกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษาอีก ส่วนโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูก็เป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการเข้าช่วยเหลือแก้ไขหนี้สินครู ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้ ปลูกฝังวินัยทางการเงิน เป็นการต่อยอดและแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ขอชื่นชมทุกฝ่ายในการร่วมมือกันดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้ลุล่วง ซึ่งจะส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาและคุณภาพสังคมต่อไป

“กระทรวงศึกษาธิการมีความห่วงใยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยในสถานศึกษา และถือเป็นหนึ่งในวาระเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะตระหนักดีว่าหากสถานศึกษามีความปลอดภัยแล้ว จะส่งผลต่อการต่อการพัฒนาการศึกษาของไทย วันนี้ได้เห็นว่าสถานศึกษาได้ดำเนินการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้เรียนในด้านต่างๆ ทั้งสร้างความตระหนักให้กับผู้บริหาร ครู บุคลากร โดยใช้หลักการ 3 ป. คือ ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม และยังมีการจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัย และจัดกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม To be Number one สถานศึกษาสีขาว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน White Zone กิจกรรมรณรงด้านการทะเลาะวิวาทในสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมตรวจเยี่ยมบ้านนักศึกษา จากกิจกรรมดังกล่าวส่งผลให้ ครู บุคลากร ผู้เรียน มีทักษะชีวิตทีดีและสถานศึกษา เชื่อว่าการดำเนินการตามนโยบายสถานศึกษาปลอดภัยจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับการศึกษาไทยต่อไปในห้วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีการขับเคลื่อนภารกิจอันยิ่งใหญ่ พัฒนาการศึกษา พัฒนาประชาชน ให้มีความเข้มแข็งและเป็นพลังในการขับเคลื่อนให้สำเร็จก้าวหน้าต่อไป”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments