ตามที่ นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย ครูโรงเรียนบ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)เชียงใหม่ เขต 3 ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว แฉพฤติกรรมของครูและบุคลากรในโรงเรียนบางคนที่ทำหน้าที่อย่างไร้จิตสำนึก ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กนักเรียนไร้ทางต่อสู้ เข้าข่ายทำร้ายร่างกายและทารุณกรรมเด็ก โดยนางสาวเพชรรัตน์ได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ที่ครูผู้ดูแลหอพักของโรงเรียน ถือไม้เรียวสอบสวนความผิดเด็กนักเรียนชายสี่คนบนลานข้างหอพัก หลังพบว่าขนมในห้องพักครูถูกขโมยไป ในภาพจะเห็นว่าครูคนดังกล่าวสอบสวนเด็กในลักษณะท่าทีข่มขู่ ก่อนจะใช้เท้าเหยียบบ่าของเด็กชายคนหนึ่งและถีบจนล้มลง จากนั้นได้ใช้ไม้ตีเด็กชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ กันและใช้เท้าเตะจนล้มคว่ำ จนทำให้เด็กหวาดกลัวและไม่กล้ามาโรงเรียนนั้น
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้สั่งการให้ สพป.เชียงใหม่เขต 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และจากการรายงานของสพป.เชียงใหม่ เขต 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อมูลเชิงลึกปรากฏว่า ครูที่โพสต์เฟซบุ๊คเป็นครูที่ขอย้ายจากกรุงเทพฯไปอยู่โรงเรียน ซึ่งอยู่บนดอยในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งครูที่อยู่ในโพสต์ได้ตีเด็กจริง สาเหตุที่ตีเนื่องจากเด็กได้ไปขโมยของหลายครั้งเตือนแล้วก็ไม่หยุดการกระทำ แต่อย่างไรก็ตามวิธีการลงโทษของครูไม่ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นคณะกรรมการที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ต้องไปดูว่าวิธีการลงโทษครูมีความผิดขั้นตอนไหน จะต้องลงโทษอย่างไร
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นที่นำเงินบริจาค 30,000 บาท ไปใช้ สพป.เชียงใหม่ เขต3 รายงานว่า ครูผู้ชายไม่ได้เอาเงินไปใช้อย่างที่เป็นข่าว แต่ครูคนดังกล่าวได้นำไปซื้อแผงโซล่าเซลล์เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางราชการ ประมาณ 20,000 กว่าบาท เพียงแต่ครูคนดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะผิดระเบียบ แต่ก็ยังนำเงินไปใช้เป็นประโยชน์แก่โรงเรียนไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัวหรือมีการทุจริต
“ครูเตะเด็กต้องถูกลงโทษทางวินัยแน่นอน เพราะมีความผิดชัดเจน การลงโทษไม่ถูกวิธี มีเหตุจูงใจอะไรถึงลงโทษแบบนี้ แต่จะมีความผิดขั้นตอนไหนก็ต้องดูสิ่งแวดล้อมอื่นด้วย ส่วนเรื่องเงินที่นำไปใช้ยังไม่มีประเด็นอะไรที่จะทุจริต ขณะเดียวกันผมได้รับรายงานจากคณะกรรมการที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า หลังจากที่ครูที่โพสต์คลิปแล้ว ต่อมาก็ได้ลบโพสต์และปิดมือถือ หาตัวก็ไม่เจอ”ดร.อัมพร กล่าว
