ดร.อรรพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยโครงการและความร่วมมือกับองค์การอื่นๆ (Programme and External Relations Commission – PX) ในการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก ครั้งที่ 216 ณ องค์การยูเนสโก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้พิจารณาวาระการขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำแห่งโลก (Nominations of new items of documentary heritage to be inscribed on the Memory of the World International Register) ซึ่งรวมถึงคัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ (National Collection of Palm-Leaf Manuscripts of Phra That Phanom Chronicle) ซึ่ง คัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ จัดเป็นเอกสารโบราณสำคัญ เป็นของแท้ดั้งเดิมที่มีเพียงคัมภีร์เดียว เนื้อหาจัดเป็นวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาฉบับพื้นถิ่นภาคอีสานที่ใช้สำนวนภาษาเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค เป็นหนังสือใบลานจารด้วยอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทย และภาษาบาลี ที่มีทำนองการแต่งเป็นภาษาโบราณแบบเฉพาะของท้องถิ่น มีความไพเราะ แทรกคติธรรม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี มีการใช้คำเป็นสำนวนภาษาให้เห็นภาพพจน์ ทำนองเปรียบเทียบ มีจำนวน 7 ผูก มีหลักฐานปรากฏอยู่ในลานหน้าสุดท้าย ซึ่งกล่าวไว้ชัดเจนว่าหนังสือฉบับนี้อาชญาเจ้าพระอุปราช พร้อมด้วยบุตร ภรรยา ให้สร้างขึ้นไว้เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2405อีกทั้งรูปอักษรธรรมอีสานนี้ ใช้จารเรื่องในคัมภีร์ก็เป็นอักษรโบราณที่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว สภาพทั่วไปแข็งแรง เส้นอักษรยังเห็นได้ชัดเจน เนื้อเรื่อง เบื้องต้นเกริ่นนำด้วยนิทานตำนานเมืองต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณริมฝั่งน้ำโขง

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สาระสำคัญของเรื่องอยู่ที่อุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) ได้มาประดิษฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ด้วยอำนาจบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ ส่วนความสำคัญของเนื้อหา นอกจากจะสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมของชุมชนในท้องถิ่นที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งแล้ว ยังแสดงถึงความเป็นบทประพันธ์ประเภทวรรณกรรมพื้นบ้านที่แฝงไว้ด้วยคติธรรม ความเชื่อของชุมชนในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ธรรมชาติ ความเอื้ออาทรต่อกันของคนในหมู่ชนที่ร่วมสังคมเดียวกันประดุจคนในครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานอันสอดคล้องกับวัฒนธรรม อารยธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ที่แพร่กระจายอยู่โดยรอบภูมิภาคของพื้นถิ่น ซึ่งมีการอยู่อาศัยของผู้คนตลอดบริเวณพื้นที่แถบลุ่มน้ำโขงและใกล้เคียงอย่างยั่งยืน ยาวนานไม่ขาดช่วงจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าในทางการเมืองจะมีการแบ่งเขตบ้านแดนเมืองเป็นประเทศต่างๆ กันแล้วก็ตาม แต่ความเคารพนับถือศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา อันมีพระธาตุพนมเป็นหลักชัย ยังยืนหยัดอย่างมั่นคง หลอมรวมจิตใจชาวพุทธ สืบสานกันมาตลอดสองฝั่งแม่น้ำโขง เป็นความเชื่อมโยงที่เหนียวแน่นชัดเจนตราบถึงทุกวันนี้

“การขึ้นทะเบียนเอกสารหรือเหตุการณ์สำคัญเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกของยูเนสโก มีกระบวนการการพิจารณาโดย International Advisory Committee (IAC) และรับรองโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ในครั้งนี้ ซึ่งมีรายชื่อขึ้นทะเบียนทั้งหมด 64 รายการ ประเทศไทยเสนอขึ้นทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลกของยูเนสโก รอบปี ค.ศ. 2022 – 2023 จำนวน 2 รายการ ได้แก่ หนังสือสมุดไทย เรื่อง นันโทปนันทสูตรคำหลวง และคัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุ ซึ่งผมได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการ (IAC) และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ที่ได้พิจารณารับรองคัมภีร์ใบลานเรื่องอุรังคธาตุเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก อย่างไรก็ตาม หนังสือสมุดไทย เรื่อง นันโทปนันทสูตรคำหลวง ยังไม่ผ่านการพิจารณา โดยได้รับการแก้ไข 3 ครั้ง จึงขอให้ยูเนสโกมีคำอธิบายอย่างเป็นทางการเพื่อนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องต่อไป”ดร.อรรถพล กล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments