นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมาหลังได้รับการร้องเรียนว่าบางโรงเรียนพบรายชื่อนักเรียนเกินเข้ามาในบัญชีชื่อนักเรียนที่มีอยู่จริง โดยพบว่าโรงเรียนขามสะแกแสงได้แจ้งรายชื่อนักเรียนไปที่สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,510 คน ตรวจสอบพบมีนักเรียนที่มีตัวตน 1,319 คน และไม่มีตัวตน 196 คน ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่การตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งเจอก็ยิ่งดี ส่วนที่ก่อนหน้านี้พบโรงเรียนในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดร้อยเอ็ดพบว่ามีเด็กไม่มีตัวตนหรือเด็กผี โดยจังหวัดอุบลราชธานีผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งมีย้ายชื่อนักเรียนข้ามเขตเกินมา 40 คนเพื่ออัพขนาดโรงเรียนจากขนาดเล็กเป็นขนาดกลางเพื่อให้สามารถย้ายไปนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและยังไม่ได้รายงานความคืบหน้า ซึ่งไม่จำเป็นต้องรายงานตลอดให้จัดการไปใครทำผิดก็ว่าไปตามนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าการมีชื่อเด็กผีเพื่ออัพขนาดโรงเรียนให้ใหญ่ขึ้น เช่น ที่จ.อุบลราชธานี ถ้าตรวจสอบพบว่ากระทำจริงก็ถือว่ามีความผิด หรือถ้าที่ไหนมาอัพขนาดแบบนี้ก็โดนหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การมีชื่อเด็กผีโผล่ในโรงเรียนเพื่ออัพขนาดโรงเรียนใหญ่ขึ้น เพราะตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ.หรือ ว 24/2560 กำหนดให้การย้ายตามขนาด เช่นนี้จะต้องมีการทบทวนหลักเกณฑ์หรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดโดยคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งจะทบทวนหรือไม่นั้น ตรงนี้ก็ต้องดูไม่ให้กระทบภาพใหญ่ เพราะของดีที่ได้จากกฎดังกล่าวก็มี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาฟ้องร้องกันไปมา หรือหากจะมีการทบทวนจริง ก็ต้องไม่ทำในช่วงที่มีการโยกย้าย