เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาศรัฐ (พ.ศ. 2566-2570) ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ โดยในส่วนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีสาระสำคัญแตกต่างไปจากมาตรการฉบับเดิม (พ.ศ.2562-2565) ที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ในส่วนของการกำหนดตำแหน่งที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สามารถพิจารณาจัดสรรตามเงื่อนไขเฉพาะกรณีได้ นั้น ในมาตรการใหม่ ในส่วนของตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในโรงเรียนระดับประถมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาส และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 120 คนขึ้นไป และไม่อยู่ในแผนการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ได้ขยายเงื่อนไขให้ครอบคลุมตำแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในกลุ่มสถานศึกษา ที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบรวมสถานศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 120 คนขึ้นไป ในพื้นที่ปกติและไม่อยู่ในแผนการถ่ายโอนให้แก่ อปท.ด้วย
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมาตรการในการจัดสรรอัตรากำลังตามเงื่อนไขเฉพาะกรณี โดยให้ ก.ค.ศ.พิจารณานำตำแหน่งที่มีอัตรากำลังครูผู้สอนเกินเกณฑ์อัตรากำลังของ ก.ค.ศ. มากำหนดเป็นตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาให้กับโรงเรียนที่มีนักเรียน 61-119 คน ที่จำเป็นต้องมีผู้บริหารสถานศึกษาในระหว่างดำเนินการตามแผนควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก และปรับวิธีการจัดสรรตามเงื่อนไขเฉพาะกรณีสำหรับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2.) เฉพาะตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการและตำแหน่งประเภททั่วไป โดยกำหนดแนวทางการจัดสรรเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญ
“ การเพิ่มมาตรการในการจัดสรรอัตรากำลังตามเงื่อนไขเฉพาะกรณี ตามมติ ครม.นี้จะทำให้กระทรวงศึกษาธิการ สามารถบริหารงานของสถานศึกษาในการขับเคลื่อนภารกิจการปฏิรูปการศึกษาและนโยบายสำคัญของรัฐบาลด้านการศึกษาได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนที่มีนักเรียน 61-119 คน จำนวน 7,969 โรง ในจำนวนนี้ไม่มีผู้อำนวยการ 1,760 โรง ดิฉันจึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และ สำนักงาน ก.ค.ศ. ร่วมกันจัดทำรายละเอียดการดำเนินการตามมติ ครม.เพื่อให้โรงเรียนขนาดเล็กดังกล่าวมีผู้อำนวยการโรงเรียนโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ศธ. จะนำมติ ครม.นี้ มาปฏิบัติเพื่อให้การกำกับดูแล การควบคุมขนาดกำลังคนและภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมตามเป้าหมายของ คปร.และ นโยบายของรัฐบาล” นางสาวตรีนุช กล่าวและว่า สำหรับผลการดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาศรัฐ (พ.ศ. 2562-2565) ในส่วนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุ รวม 69,134 อัตรา โดยจัดสรรคืนให้ส่วนราชการ 69,019 อัตรา คิดเป็นร้อยละ 99.83 และทดแทนด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น จำนวน 115 อัตรา คิดเป็นร้อยละ 9.72 จากจำนวนผลการเกษียณอายุของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในหน่วยงานการศึกษา สังกัด ศธ.จำนวน 1,183 อัตรา.