เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ครั้งที่ 43 ปีการศึกษา 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กราบบังคมทูลถวายรายงาน ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร นายยศพล เวณุโกศเศศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายสง่า แต่เชื้อสาย ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายจักรภพ มงคลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ประธานคณะกรรมการ อกท. สมาชิกองค์การฯ เฝ้ารับเสด็จ ในโอกาสนี้ ผู้ทำคุณประโยชน์แก่ อกท. ได้รับพระราชทานโล่ จำนวน 25 ราย และเข็มที่ระลึก จำนวน 51 ราย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 32 ได้เห็นผลงานและพัฒนาการขององค์การได้ดียิ่งขึ้นตามลำดับการประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ เป็นเวทีให้สมาชิกได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางวิชาชีพด้านเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ประจักษ์ ผลงานโครงการของสมาชิก จะช่วยประชาสัมพันธ์ภาพที่ดีของเกษตรกรรุ่นใหม่ของชาติสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น พากเพียร ของการศึกษาเรียนรู้หากได้รับการส่งเสริม สนันสนุนซึ่งจะทำให้สมาชิกมีกำลังใจที่จะเรียนรู้ฝึกฝนจนสามารถได้ทักษะและประสบการณ์ สร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่ตนเองและเป็นหลักให้ครอบครัวในอนาคต โลกปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง ประเทศไทยจึงมีความต้องการกำลังคนด้านอาชีวะเกษตรที่มีสมรรถนะทางอาชีพเป็นอย่างดี ในผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีทักษะรอบด้าน รวมถึงสามารถนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตที่จะได้แข่งขันกับนานาประเทศได้ แต่ทั้งนี้ ทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคเท่ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และดำรงวิถีไทยไว้ได้อย่างมั่นคง ขอแสดงความชื่นชมและขอขอบใจทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดประชุมในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจและกำลังปัญญาสามารถสร้างสรรค์ความสำเร็จในชีวิต และกิจการน้อยใหญ่ได้ดังประสงค์”
จากนั้น ทรงทอดพระเนตรกิจกรรมองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ทรงรับฟังการบรรยายผลงานวิจัย เรื่อง การเปรียบเทียบวิธีสกัดสารประกอบฟีนอลิกและฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียของแอลกอฮอร์ล้างมือผสมสารสกัดกลีบดอกบัวหลวง ของสมาชิก อกท.หน่วยปัตตานี คณะผู้วิจัยมีความสนใจในการนำดอกบัวหลวงที่ปลูกในสระน้ำวิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรและประมงปัตตานีที่ใช้ประโยชน์เพียงการประดับ เป็นอาหารของสัตว์น้ำ และนำมาบูชาพระหรือนำมาใช้ในทางศาสนา มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดย การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดสารประกอบฟีนอลิกจากกลีบดอกบัวหลวง ได้เแก่ วิธีการสกัดความเข้มข้นของเอทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นตัวทำละลาย และระยะเวลาที่ใช้ในการสกัด ตลอดจนเปรียบเทียบฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียของสารสกัดกลีบดอกบัวหลวงที่ผสมในแอลกอฮอลล์ล้างมือ(เอทิลแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งเป็นการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียมาตรฐาน Staphylococcus aureus, Escherichia Coli และ Bacillus Subtilis การศึกษานี้จึงเป็นแนวทางในการนำพืชสมุนไพรมาเป็นแหล่งยับยั้งจุลินทรีย์จากธรรมชาติ เพื่อนามาผลิตแอลกอฮอลล์ล้างมือสำหรับใช้ในการป้องกันโรคจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่บัวหลวงซึ่งเป็นพืชในท้องถิ่น
ต่อจากนั้น ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กราบบังคมทูลรายงานโครงการข้าวไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับกรมข้าวไทยและมูลนิธิข้าวไทย จัดค่ายข้าวไทย 4 ภาค ให้แก่เยาวชนและผู้เรียนอาชีวะเกษตร เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องข้าว งานวิจัยและเทคโนโลยีการผลิตข้าว นอกจากนี้ ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ด้านการศึกษา นิทรรศการเทิดพระเกียรติเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ นิทรรศการนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 ภาค นิทรรศการหน่วย อกท. ดีเด่น 4 หน่วย นิทรรศการสมาชิก อกท. ดีเด่น 8 คน นิทรรศการสมาชิกพัฒนาสังคมและบริการชุมชนดีเด่น 8 คน นิทรรศการสมาชิกศิษย์เก่า อกท. ดีเด่น 4 คน นิทรรศการทางการเกษตรของหน่วย อกท. 12 หน่วย อาทิ หน่วยชัยภูมิ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ชัยภูมิ “ปลาซิวจิ๋วแต่แจ๋ว”, หน่วยลำพูน วษท. ลำพูน “เยี่ยม…เนียมหูเสือ, หน่วยบางพูน วิทยาลัยการอาชีวศึกษา (วกศ.) ปทุมธานี “เล้านางรม : Smart Farming Golden Oyster Mushroom”, หน่วยตาก วษท. ตาก “พริกดอย อร่อยดี”, หน่วยนครราชสีมา วษท.นครราชสีมา “สะเดาเศรษฐี” และหน่วยพรานทะเล วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ “สองใย สองเล” เป็นต้น นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ทางการเกษตร นิทรรศการความร่วมมือจัดการศึกษาไทย-เดนมาร์ค นิทรรศการโครงการบริหารจัดการน้ำ นิทรรศการไก่ชีหลง (วษท.ยโสธร) โครงการอาหารกลางวัน และโครงการจัดการศึกษาในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
ทั้งนี้ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กราบบังคมทูลถวายรายงานว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้และเป็นความปลาบปลื้มปิติเป็นล้นพ้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานพิธีเปิดการประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 43 โดย อทก. ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง เป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนานักเรียนนักศึกษาอาชีวะเกษตร ภายใต้คติพจน์ขององค์การฯ ที่สมาชิกทุกคนต้องยึดมั่นถือปฏิบัติให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และสนองตอบนโยบายการพัฒนากำลังคนของประเทศ ที่มุ่งเน้นผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูงในการพัฒนาประเทศ พัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามแนวคิดประเทศไทยมั่นคง ร่ำรวย ด้วยมืออาชีวะ ผู้เรียนอาชีวศึกษามีงานทำ และองค์การได้น้อมนำพระราชดำรัสของใต้ฝ่าละอองพระบาทที่พระราชทานไว้ให้กับสมาชิก อกท. ไปดำเนินโครงการสนองแนวพระราชดำริหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โครงการพี่ช่วยน้อง และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เป็นต้น การประชุมวิชาการ อกท. ในครั้งนี้ องค์การฯ ได้นำผลสำเร็จในการสร้างสมาชิกผู้นำขององค์การ นิทรรศการทางการเกษตร การแข่งขันทักษะวิชาชีพ การยกย่องเชิดชูเกียรติสมาชิกปัจจุบันดีเด่น ศิษย์เก่าดีเด่น การแสดงผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การบริการฝึกอาชีพ การสัมมนาผลงานทางวิชาการ การแสดงนันทนาการ นอกจากนี้แล้วองค์การฯ ยังได้ประสานงานความร่วมมือกับชุมชนในท้องถิ่น ทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมจัดกิจกรรมแสดงผลงานให้นักเรียน นักศึกษา เกษตรกรและประชาชน ได้รับความรู้ทางวิชาการและนวัตกรรมทางการเกษตรเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการเกษตรสมัยใหม่ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบอาชีพด้านการเกษตรยุคใหม่อีกด้วย
โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัสแก่ สมาชิก อกท. “หวังว่าทุก ๆ คนจะประสบความสำเร็จ เพราะวิชาชีพเกษตรไปได้กว้างขว้าง และสมาชิกนอกจากทำในประเทศแล้วก็ยังได้ทำในต่างประเทศ ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือและชื่นชม นับเป็นการเผยแพร่เกียรติภูมิของเกษตรกรไทยด้วย และหวังว่าจะประสบความสำเร็จไปเรื่อย ๆ จึงต้องศึกษาจากการฝึกหัด จากการทำ และได้คิดจะอะไรให้ดีขึ้น เพิ่มพูนนอกจากรายได้แล้วก็จะได้วิชาความรู้ แล้วจะประสบความสำเร็จจากคุณครู ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ให้มีความสุขกายสุขใจ ปราศจากโรคภัยที่ไม่พึงประสงค์ ทุกอย่างให้มีความสุข ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วขอคุณมากจัดการประชุมวิชาการ อกท. ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้”