ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ปัญหานักเรียนผีเป็นปัญหาคั่งค้างมาตั้งแต่การปรับตัวไม่ทันของกฎระเบียบ พอกฎระเบียบไม่ปรับ คนปฏิบัติก็เกิดการติดขัด เช่น เรื่องรับนักเรียน มี 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นข้อติดขัดทำให้ทะเบียนนักเรียนกับจำนวนนักเรียนไม่สอดคล้องกัน นักเรียนส่วนหนึ่งมีตัวตนจริง ๆ แต่ส่วนที่ไม่มีตัวตนก็เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายนักเรียนออกจากทะเบียนได้ เช่น ย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วไม่มาแจ้งย้าย เสียชีวิตก็ไม่เอาหลักฐานมาแสดง สมรสแล้วไม่ยอมมาเรียน หรือ เด็กที่ควรจะจบ ม.3 และ ม.6 แต่ยังติด ‘0’ ‘ร’ ‘มส’ แต่ไม่ยอมมาติดต่อ เด็กพิการ เรียนร่วม มาบ้าง ไม่มาบ้าง ทั้งหมดนี้คือข้อติดขัดในการปฏิบัติตามระเบียบของฝ่ายรัฐ ที่เราไม่ทำงานเชิงรุกเข้าไปหาประชาชน ตนจึงได้กำชับ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ทั่วประเทศ ลงไปตรวจสอบพื้นที่ให้มากขึ้น
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า อีกส่วนเป็นการเจตนาบิดเบือน เปลี่ยนแปลงข้อมูล ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่า ผลประโยชน์เรื่องเงินรายหัวไม่ใช่แรงจูงใจ เจตนาจริง ๆ น่าจะเป็นเพราะระเบียบการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาไปผูกพันกับขนาดโรงเรียน ที่กำหนดว่า ถ้านักเรียนต่ำกว่า 500 คน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก 500 คนขึ้นไปเป็นโรงเรียนขนาดกลาง 1,000 คนขึ้นไปเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ เวลาย้ายจะย้ายจากโรงเรียนขนาดเดียวกันก่อน โรงเรียนขนาดเล็กจะย้ายไปโรงเรียนขนาดใหญ่กว่าได้แค่ขนาดกลางเท่านั้น โดยเหตุที่เกิดขึ้น พบว่า เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียน 400 กว่าคนแล้ว เพิ่มอีก 40 คน ก็จะกลายเป็นโรงเรียนขนาดกลางขอย้ายไปโรงเรียนขาดใหญ่ได้ ต้องไปตรวจสอบว่ามีเจตนาที่จะทำให้ข้อมูลบิดเบือนหรือติดขัดที่ระเบียบ อย่างไรก็ตามคิดว่าคนที่ทำผิดกรณีนี้คงมีไม่มาก เพราะไม่มีทางรอดสายตาของสังคมได้ การยื่นย้ายแต่ละครั้งก็มีคนอยากไปโรงเรียนเดียวกันหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นโรงเรียนขนาดไหน มีนักเรียนเท่าไหร่ ถ้าจะมีเพิ่มขึ้นก็ต้องเพิ่มในระดับที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ สพฐ.ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้สพฐ.จะมีการเคลียร์ระบบให้ตรงกับความจริงภายในวันที่ 15-30 พ.ย.นี้ จากนั้นจะตั้งกรรมการระดับโรงเรียนลงพื้นที่สแกนภายในวันที่ 3 ธ.ค.ต่อไป ส่วนกรณีของโรงเรียนที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีรายชื่อเด็กที่ไม่มีตัวตน เกินมา 40 คนนั้น ก็จะจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
ดร.อัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงของ สพฐ. ได้ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว แต่ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้ามา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหาเด็กผี จะดีขึ้น เรื่องนี้จะเป็นเหมือนกรณีอาหารกลางวันนักเรียน ที่เมื่อเกิดเรื่องแล้ว ศธ.ลงจัดการจริงจังก็ไม่มีใครกล้าทำอีก ขณะนี้ต้องตรวจสอบจำนวนนักเรียนอย่างจริงจัง ซึ่ง เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ดร.บุญรักษ์ ได้มารายงานผลการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติและข้อสั่งการที่หน่วยงานในสังกัดต้องดำเนินการเกี่ยวกับการรายงานจำนวนนักเรียน เพื่อแก้ไขปัญหานักเรียนไม่มีตัวตนจริงในห้องเรียนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นท์ โดยมีผอ.สพท. รอง ผอ.สพท. ผอ.โรงเรียน รองผอ.โรงเรียน ครูที่รับผิดชอบงานทะเบียนนักเรียน และคนที่รับผิดชอบทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 200,000 คนแล้ว ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ยาก ถ้าสถานศึกษามีความตั้งใจที่จะทำอย่างจริงจังก็จะไม่เกิดปัญหานี้อีก