เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ โรงเรียนวัดอมรินทราราม เขตบางกอกน้อย โดยน.ส.ตรีนุช กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า ปัจจุบันปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานในระดับสีแดงและสีส้มในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือและกรุงเทพฯ โดยมอบอำนาจให้ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถใช้ดุลยพินิจในการเปิด-ปิดสถานศึกษาตามสถานการณ์และความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ต้องหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น ๆ ด้วย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของนักเรียนและครูทุกคน ทั้งที่อยู่ในพื้นที่มีฝุ่นและพื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในทุกมิติ วันนี้จึงได้สุ่มลงตรวจเยี่ยมในพื้นที่โรงเรียนวัดอมรินทราราม เขตบางกอกน้อย พบว่ามีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในระดับสีส้มที่ต้องเฝ้าระวัง จึงได้กำชับไปยังผู้บริหารสถานศึกษาให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยย้ำให้ดูแลผู้เรียนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด ทั้งโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งเด็กเล็ก หากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่นฯ ศธ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ออกมาตรการแนวทางเร่งด่วนในการป้องกัน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นฯ PM 2.5 อาทิ ให้ผู้สอนและผู้เรียนล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อเป็นการลดเชื้อโรค ของเสีย และสารก่อภูมิแพ้ งดกิจกรรมกลางแจ้งหรือให้จัดเฉพาะกิจกรรมที่จำเป็นจริง ๆ สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น ปิดประตูหน้าต่างช่วงมีฝุ่นสูง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ต่าง ๆ ของครูและนักเรียนที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งให้ครูสื่อสารข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนให้ติดตามและเฝ้าสังเกตรายงานสถานการณ์จากกรมควบคุมมลพิษอย่างต่อเนื่อง
.
“สำหรับโรงเรียนวัดอมรินทรารามที่ได้มาตรวจเยี่ยมในวันนี้ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น อ.1 – ป.6 มีนักเรียน 1,268 คน ทราบว่าได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลศิริราช ตามโครงการ “ห้องเรียนอากาศสะอาด” ในการปรับปรุงระบบระบายอากาศในห้องเรียน ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19 และลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในห้องเรียนจำนวน 12 จากทั้งหมด 41 ห้องเรียน และที่สำคัญผลพลอยได้จากระบบนี้จะทำให้ผู้เรียนลดภาวะง่วงนอนระหว่างเรียนได้ เนื่องจากทุกครั้งที่เติมอากาศเข้าไปในห้องปิด เท่ากับเรากำลังเติมอากาศใหม่ที่สะอาดกว่าจากภายนอก ทำให้เด็กได้รับออกซิเจนเข้าไปมากขึ้น ง่วงน้อยลง เนื่องจากในภาวะที่มีการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ ซึ่งเกิดจากการหายใจออกของคนภายในห้องและมีการระบายอากาศที่ไม่ดี จะทำให้เด็กเกิดอาการง่วงนอนได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นการช่วยเหลือกระทรวงศึกษาธิการในการดูแล ป้องกันลูก หลานของเราจากภัยมลพิษทางอากาศได้อีกทางหนึ่ง” น.ส.ตรีนุชกล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments