เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เวลานี้การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน ทั้งหญิงและชายกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าบุหรี่ไฟฟ้าได้เข้าถึงกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีแล้ว โดยมีนักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมเงินกันซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาแบ่งกันสูบถึง20 คน ด้วยความอยากรู้อยากลอง และเด็ก ๆหลายคนอาจมองว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเท่มีรูปลักษณ์สวยงาม ซื้อหาง่าย ทั้ง ๆ ที่บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นภัยร้ายที่จะนำไปสู่การเสพติดนิโคตินระยะยาว และเป็นการเปิดประตูสู่การสูบบุหรี่ธรรมดา และอาจนำไปสู่การเสพติดสิ่งเสพติดอื่น ๆ ได้ง่าย ดังนั้น ตนจึงได้สั่งการไปยังต้นสังกัดของสถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชนทุกแห่ง ให้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยที่มาจากบุหรี่ไฟฟ้า ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา โดยยึดกฎ ระเบียบเช่นเดียวกับการห้ามสูบบุหรี่ธรรมดาและต้องตรวจตราอย่างเคร่งครัดด้วย
” ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเข้มงวด กวดขัน เคร่งครัด และป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน ขณะนี้เด็ก ๆ หลายคนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย ซึ่งการดำเนินการห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา สามารถทำได้ทันที โดยอ้างอิงประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมาตามความ พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ที่ได้กำหนดให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาเป็นสถานที่สาธารณะต้องเป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการก็ได้มีการกำหนดนโยบายโรงเรียนปลอดบุหรี่ ให้สถานศึกษาบริหารจัดการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ จัดสภาพแวดล้อมให้โรงเรียนปลอดบุหรี่ สอดแทรกเรื่องบุหรี่ในการจัดการเรียนรู้ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโรงเรียนปลอดบุหรี่ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเพิ่มนโยบายเรื่องให้โรงเรียนปลอดบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปด้วย ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปสู่วงจรนักสูบหน้าใหม่ และช่วยป้องกันรักษาสุขภาพของเด็ก ๆได้”รมว.ศึกษาธิการกล่าว.