อีก 2 วัน ก็จะมีการเลือกตั้งสรรหากรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีการขับเคี่ยวกันอยู่ 2 กลุ่ม คือ”กลุ่มเพื่อนสุรินทร์”ที่มีผู้นำทัพวัย 85 ปี กับ”กลุ่มพัฒนายุคใหม่” ที่เพิ่งจะเกษียณอายุราชการไปไม่กี่ปี วันนี้ Focusnews. ได้มาจับกระแสเลือกตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษา ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม นี้ โดยได้สัมภาษณ์ นายธวัช หมื่นศรีชัย อดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษา ซึ่งท่านได้วิเคราะห์ถึงบุคคลที่ขับเคี่ยวกันตอนนี้คือ เบอร์ 1 (นายสุรินทร์ ต่อเนื่อง อายุย่างเข้า 85 ปี) กลุ่มเพื่อนสุรินทร์ กับ เบอร์ 8 (นายพิศณุ ศรีพล อายุ 63 ปี)กลุ่มพัฒนายุคใหม่ สมาชิกต้องเลือกใคร
นายธวัช บอกว่า เบอร์ 1 อายุย่าง 85 ปี เป็นกรรมการบริหารชุดปัจจุบันที่ กำลังจะหมดวาระ และในวาระ 2 ปี ที่ผ่านมา ท่านมาประชุมด้วยตัวเองเพียง 2 – 3 ครั้ง จากการประชุมประจำเดือนและอนุกรรมการต่างๆ ประมาณ 60 ถึง 70 ครั้ง ใน รอบ2 ปี ส่วนใหญ่ท่านจะประชุมออนไลน์เพราะท่านอายุมาก กลัวติดโควิด ถ้าท่านได้เป็นกรรมการครั้งนี้ท่านจะทำงานจนถึงอายุ 87 ปี ท่านต้องร่วมบริหารเงิน 25,000 ล้านบาท ด้วยวัย 87 ปี ผมว่า “คนที่คิดจะเลือกเบอร์ 1 ท่านจะต้องคิดอย่างหนัก เพราะต้องเลือกคนที่ใกล้จะอายุเกือบ 90 ปี มาทำงาน
ถ้าเลือก เบอร์ 1 เบอร์ 8 ก็จะหลุดเพราะเป็นเบอร์พ่วงท้าย อายุ 63 ปี ก็ถือว่ายังเป็นหนุ่มอยู่ ความรู้ก็จบปริญญาตรีเอกสังคม มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ ทำงานใหญ่มาก่อน เคยเป็นคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(บอร์ด กพฐ.)บริหารโรงเรียนประสบความสำเร็จแบบแนวคิดด้านธุรกิจ การันตี ได้จากการบริหารโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี จากที่มีนักเรียน 300 คน เพิ่มขึ้นเป็น 3000 กว่าคน ในขณะที่ประชากรวัยเรียนลดลง เป็นนักการตลาด นักนวัตกรรมชนะเลิศเหรียญทองระดับประเทศของสพฐ.เป็นครูรับรางวัลจากมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่น รางวัลครุฑทองคำ เป็นนักบริหารร่วมสมัย เป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ มีวิสัยทัศน์ทางการลงทุน
“ถ้าวันที่ 28 มกราคม หากเบอร์ 1 ได้ เสียดาย เบอร์ 8 เพราะเบอร์ 8 เป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากด้วยฝีมือต้องมาแพ้คนวัย 85 ปี เพราะสหกรณ์เป็นธุรกิจ ที่นำเงินสมาชิกไปลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวกรรมการ หากผิดพลาดมา ผลกระทบ ทั่วถึงกันทุกคน สหกรณ์จึงไม่ใช่พื้นที่ตอบแทนบุญคุณใคร หรือพื้นที่เห็นอกเห็นใจใครส่วนตัวแล้ว เพราะสหกรณ์เป็นเสมือนธุรกิจ เงินสหกรณ์มีถึง 25,000 ล้านบาท ต้องบริหารโดยคนมีความพร้อม ทั้งร่างกายและสติปัญญา ในยุค เทคโนโลยี และนวัตกรรม ผมจึงขอฝากสมาชิกช่วยทบทวนวิธีคิดก่อนตัดสินใจเลือกใคร เราเห็นตัวอย่างสหกรณ์ที่ล้มเหลวมามากแล้ว อย่าให้เกิดขึ้นกับสหกรณ์เราเลยครับ”นายธวัช กล่าวทิ้งท้าย