วันที่ 23 มกราคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมมือกับ บริษัท ภัทรเมธากิจ จำกัด เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการผลิตกำลังคนอาชีวะด้านไฟฟ้า ณ ห้องประชุมสัตตบงกช อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2555 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) กล่าวว่า สอศ. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ภัทรเมธากิจ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางไฟฟ้า และผลิตตู้ควบคุมไฟฟ้า ประปา เครื่องปรับอากาศ ที่ได้มาตรฐานสากล มีประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมกว่า 20 ปี การร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการผลิตกำลังคนของ สอศ. อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนากำลังคนให้มีคุณธรรม ความรู้ทักษะ และก้าวทันเทคโนโลยี และส่งเสริมพัฒนาทักษะวิชาชีพของนักเรียน นักศึกษา ให้มีความรู้ความชำนาญในวิชาชีพ โดย สอศ. มีแนวทางการดำเนินการดังนี้
- พัฒนาหลักสูตรโดยร่วมมือกับบริษัทในการจัดการเรียนการสอนเป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงานและสามารถเป็นผู้ประกอบการได้
- จัดทำหลักสูตรการพัฒนาอบรมครูและบุคลากรในสังกัด สอศ. หลักสูตรการฝึกประสบการณ์ วิชาชีพของนักเรียนนักศึกษาร่วมมือกับบริษัท พร้อมดำเนินการอบรมและฝึกตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด
- ส่งเสริม สนับสนุนความรู้ด้านวิชาการการติดตั้งไฟฟ้าด้วยท่อร้อยสายไฟ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องของนักเรียน นักศึกษา ร่วมกับบริษัท
- จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับบริษัท ในการติดตามประเมินผลและปรับปรุงการประสานความร่วมมือให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวกับการให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในสถานศึกษาสังกัด สอศ. โดยการประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายชนะภัทร ภัทรเมธากุล กรรมการบริหาร บริษัท ภัทรเมธากิจ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมครูและบุคลากรในสังกัด สอศ. และเป็นสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักเรียน นักศึกษา พร้อมดำเนินการอบรมและฝึกตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมที่จะส่งเสริม สนับสนุนบุคลากรในการให้ความรู้ด้านวิชาการการติดตั้งไฟฟ้าด้วยท่อร้อยสายไฟ และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของนักเรียน นักศึกษา ร่วมกับ สอศ. พร้อมติดตามประเมินผลและปรับปรุงการประสานความร่วมมือ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระยะเวลาความร่วมมือทั้งสิ้น 3 ปี
