เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 ภายใต้แนวคิด Children’s Day เด็กดี วิถีไทย มอบความสุข ปลุกความคิด เข้าใจชีวิตวิถีไทย มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชน เป็นคนเก่ง คนดี สามัคคี รู้จักหน้าที่ของตนเอง โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี มาถึงได้ชมการแสดงของวงโยธวาทิต ของโรงเรียนชะอวดวิทยาคาร จ.สุราษฎร์ธานี บรรเลงเพลง ‘LALISA’ มาให้การต้อนรับ จากนั้นถ่ายภาพร่วมกับเด็กๆ พร้อมโบกถือทักทายเด็กที่มาร่วมงาน ซึ่งการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติครั้งนี้ เป็นการจัดแบบออนไซต์เป็นครั้งแรก หลังจากประเทศไทยต้องเผชิญโควิด-19 มานาน 3 ปี โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และข้าราชการระดับสูง ศธ. ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดกิจกรรมวันเด็ก ครั้งที่ 68 หวังว่าเด็กๆ จะได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนาน นอกตำรา สร้างความทรงจำที่ดีให้กับเด็กในอนาคตและยังเป็นผู้ที่รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี พร้อมย้ำให้เยาวชนตระหนักและสำนึกในหน้าที่ เหมือนเช่นเพลงหน้าที่ของเด็ก ที่มาเปิดในงานวันเด็กแห่งชาติทุกปี แม้แต่งมานานแล้วแต่ไม่ล้าสมัย เนื้อหายังครอบคลุมและทันสมัย มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนเติบใหญ่ เป็นพลเมืองที่ดีมัธยัสถ์ กระตือรือร้นในการทำงาน รู้จักหน้าที่และสร้างนิสัย ใฝ่ความดี และยังเน้นย้ำห่วงเรื่องของการบูลลี่ ในโรงเรียนว่าโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ที่สร้างความสงบสุขเรียบร้อย และต้องป้องกันไม่ให้เกิดการบูลลี่ในเด็ก ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เน่นย้ำว่าประเทศต้องเดินหน้า หยุดไม่ได้ โดยกิจกรรมต่างๆ ต้องเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศไปพร้อมๆ กัน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธและกิจกรรมภายในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมี 3 โซนด้วยกัน ประกอบด้วย โซนดินแดนมหาสนุก ความสุข วิถีไทย เป็นกิจกรรมแสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเด็กไทยในยุคใหม่ ที่มีความรัก ความสามัคคี รู้จักหน้าที่ของตนเอง และปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคมได้อย่างถูกต้อง รู้จัก Soft Power ของชาติ โซนแอดเวนเจอร์ หลากมิติ..พิชิตภูผา โดยเป็นโซนกิจกรรมที่จัดขึ้นบริเวณถนนราชดำเนินนอก ให้เด็กๆ ได้สนุกสนานกับการใช้สติและกำลังแขนขา เพื่อเล่นกิจกรรมและช่วยเหลือผู้อื่น และโซนโลกมหัศจรรย์ สารพันแฟนตาซี บริเวณถนนลูกหลวง เป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความแปลกใหม่ สีสันสดใส เป็นเวทีรองเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมตามรอยเสนาบดีแห่งวังจันทรเกษม เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ที่มาของวังจันทรเกษมสู่กระทรวงศึกษาธิการ และกิจกรรมวอล์กแรลลี่ 5 จุด ภายในกระทรวงศึกษาธิการ แลกรับรางวัล และกิจกรรมประกวดหนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอนผ้าไทยใส่ให้สนุก ชิงทุนการศึกษา 3,000 บาท และถ้วยรางวัลจากกระทรวงศึกษาธิการ
ด้าน น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. ภายใต้แนวคิด “Children’s Day เด็กดี วิถีไทย” เพื่อส่งต่อความสุขควบคู่กับการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และลงมือปฏิบัติผ่านกิจกรรมที่เสริมสร้างเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดี พร้อมเรียนรู้วิถีไทยด้วยความสุข ความสนุกแบบเต็มอิ่ม ตามคำขวัญวันเด็กประจำปี 2566 คือ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบให้ สำหรับรูปแบบการจัดงาน แบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ โซนที่ 1: ดินแดนมหาสนุก…ความสุขวิถีไทย (ภายในกระทรวงศึกษาธิการ) เป็นโซนกิจกรรมที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเด็กไทยยุคใหม่ที่มีความรัก ความสามัคคี รู้จักหน้าที่ของตนเอง และปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคมได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเรื่องราวของวิถีไทยเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรื่อง Soft Power ของชาติ เป็นเวทีหลักในพิธีเปิดงานถ่ายทอดสดและกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ โซนที่ 2: แอนเวนเจอร์หลากมิติ…พิชิตภูผา (บริเวณถนนราชดำเนินนอก) เป็นโซนกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสนุกแบบลุ้นระทึก การได้ใช้สติและกำลังแขนขาเพื่อการเล่นกิจกรรม พร้อมการส่งเสริมให้เด็กรู้จักการใช้ความสามารถและการช่วยเหลือเพื่อน โดยการพิชิตผ่านด่านกิจกรรม และโซนที่ 3: โลกมหัศจรรย์…สารพันแฟนตาซี (บริเวณถนนลูกหลวง) เป็นโซนกิจกรรมที่ให้เด็กและเยาวชนได้เห็นถึงความแปลกใหม่ ตื่นตา ตื่นใจ กับความมหัศจรรย์ และสีสันสดใสต่าง ๆ รวมทั้งเป็นเวทีรองเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรม การแสดงของหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งน้อง ๆ ที่มาร่วมงาน จะได้เล่นเกมส์แลกรับของรางวัล ทั้ง 3 โซน ฟรีตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ยังมีความสนุกสนานกับการแสดงบนเวทีกลางอีกมากมาย ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม มินิคอนเสิร์ต จากศิลปินดัง มิย่า ทองเจือ และแชมป์มวยระดับโลก พี่บัวขาว บัญชาเมฆ และกิจกรรมการประกวด หนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอน ผ้าไทยใส่ให้สนุก เพื่อส่งเสริมสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้วยการให้ผู้เข้าประกวดแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย โดยผู้เข้าประกวดมีอายุระหว่าง 6-12 ปี ชิงทุนการศึกษา 3,000 บาท และถ้วยรางวัลจากกระทรวงศึกษาธิการด้วย