เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้มีหนังสือเรียน ศ.กิตติคุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มอบหมายให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ปรับแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นแผนระดับ 2 ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอต่อ ครม. ให้ความเห็นชอบให้มีแผน 3 ระดับ โดยไม่ได้จัดให้แผนการศึกษาแห่งชาติเป็นแผนระดับ 2 แต่จัดให้แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นแผนระดับ 3 เทียบเท่ากับแผนระดับหน่วยงาน และขณะนี้ ครม.ได้ปรับแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นแผนระดับ 2 แล้ว
“ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้ใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ มาแล้ว พบว่า แผนฯดังกล่าวส่งผลต่อการขับเคลื่อนแผนการศึกษาแห่งชาติ เนื่องจากหน่วยงานจะยึดแผนของตนเองเป็นหลักในการขับเคลื่อนและอาจไม่เชื่อมโยงกับแผนการศึกษาแห่งชาติแม้จะเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แต่อาจไม่ได้มีการดำเนินงานในประเด็นลึก ๆ เนื่องจากแผนการศึกษาแห่ชาติมีรายละเอียดที่พุ่งเป้าไปในการพัฒนาการศึกษา ที่ลงลึกมากกว่าแผนระดับ 1 อีกทั้ง แผนการศึกษาเห่งชาติมีความสำคัญอย่างมาก กล่าวคือ 1.เป็นแผนเดียวที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดไว้ในมาตรา 54 วรรค 3 ซึ่งการมุ่งเน้นขับเคลื่อนให้บรรลุแผนการศึกษาแห่งชาติจึงเป็นการแสดง ถึงเจตจำนงที่จะดำเนินการในรัฐธรรมนูญด้วย 2. แม้จะใช้ชื่อว่าแผนการศึกษาแห่งชาติ แต่ในทางปฏิบัติเป็นแผนข้าม sectors ที่เชื่อมโยงทั้งภาคการศึกษา แรงงาน และภาคส่วนอื่นๆ ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชติ ฉบับก่อนหน้านี้ เช่น ฉบับที่ 11 ก็เคยกล่าวถึงการมุ่งเน้นให้การพัฒนาคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ด้วยเป็นฐานในการพัฒนาทุก Sectors และ 3. มีหน่วยงานที่จัดการศึกษาที่ต้องยึดแผนการศึกษาเป็นแผนแม่บทในการขับเคลื่อนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมากกว่า 12 กระทรวง”ปลัดศธ.กล่าว
ดร.อรรถพล กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจะต้องประสานกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ตนในฐานะปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็เห็นว่าเรื่องนี้มี ความสำคัญอย่างมาก เพราะการยกระดับแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นแผนระดับ 2 จะช่วยให้การขับเคลื่อนแผนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และหวังว่าสภาพัฒน์ฯ จะพิจารณาดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่เป็นรูปธรรม
