เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ที่มี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบเสนอความเห็นต่อ รมว.ศึกษาธิการในการออกระเบียบ ศธ. ว่า ด้วยผู้ช่วยครูในโรงเรียนเอกชนในระบบที่จัดการศึกษาให้แก่นักเรียนพิการ พ.ศ. …. ตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ให้ความเห็นชอบการอุดหนุนสมทบเงินเดือนครูและการอุดหนุนสมทบเงินเดือน ผู้ช่วยครู โดยให้ สช.ได้ยกร่างระเบียบ ศธ. ว่าด้วยผู้ช่วยครูในโรงเรียนเอกชนในระบบที่จัดการศึกษาให้แก่นักเรียนพิการ พ.ศ. …. โดย ร่างระเบียบดังกล่าวฯ มีสาระสำคัญ คือ กำหนดอัตราส่วนผู้ช่วยครูต่อนักเรียนพิการ (ผู้ช่วยครู 1 คน ต่อนักเรียนพิการ 15 คน) ให้ได้รับการสมทบเงินเดือนผู้ช่วยครู ตามระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายมณฑล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเสนอความเห็นต่อ รมว.ศึกษาธิการ ในการออกระเบียบ กช. ว่าด้วยการกำหนดจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในระบบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อให้สอดคล้องกับมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ได้เห็นชอบการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลสำหรับนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาและประเภทอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โดย มีสาระสำคัญ คือ ให้เพิ่มข้อความของระเบียบ กช. ว่าด้วยการกำหนดจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในระบบ พ.ศ. 2551 ดังนี้ ข้อ 4/1 โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแก่นักเรียนพิการต้องจัดให้มีครูที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพครู ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือครูการศึกษาพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ให้เพียงพอแก่การจัดการศึกษาและมีจำนวนที่เหมาะสมกับนักเรียน ดังนี้ 1.โรงเรียนประเภทสามัญศึกษา คือ (ก) ระดับก่อนประถมศึกษาและประถมศึกษา ให้มีอัตราส่วนครู 1 คน ต่อนักเรียนพิการ 10 คน และ (ข) ระดับมัธยมศึกษา ให้มีอัตราส่วนครู 1 คน ต่อนักเรียนพิการ 15 คน และ (2)โรงเรียนประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้มีอัตราส่วน ครู 1 คน ต่อนักเรียนพิการ 15 คน
“และให้ยกเลิกข้อความ ในข้อ 5 ของระเบียบฯ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ข้อ 5 การแต่งตั้งครูเกินกว่าอัตราส่วนที่กำหนดตามข้อ 4 และข้อ 4/1 โรงเรียนสามารถกระทําได้ โดยคํานึงถึงคุณภาพและความเหมาะสมในการจัดการศึกษา เพื่อประโยชน์ต่อนักเรียน การแต่งตั้ง ถอดถอน ครู บุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อบังคับที่โรงเรียนกําหนด การแต่งตั้ง ถอดถอน ตามวรรคสอง ให้โรงเรียนนํารูปแบบหนังสือแต่งตั้ง ถอดถอนตามแบบท้ายระเบียบนี้ไปปรับใช้ ซึ่งการปรับระเบียบดังกล่าวเพื่อให้เกิดมาตรฐานการจัดการศึกษาของเด็กพิการ และให้การเบิกจ่ายเงินอุดหนุนสามารถดำเนินการได้ หลังจากนี้ สช.จะเร่งร่างระเบียบฯ ทั้ง 2 ร่าง เสนอ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามต่อไป” นายมณฑล กล่าว