เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงเหตุกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิตจำนวนมาก ว่า เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำมาตลอดโยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่ได้กำชับมาตลอดว่า โรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สองของเด็ก เป็นที่ที่จะสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครองที่จะส่งเด็กมาโรงเรียน เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้เราจะมีมาตรการความปลอดภัยในสถานศึกษาอยู่แล้วก็ต้องเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มความเข้มงวด การกำหนดมาตรการเข้า-ออก สถานศึกษาฯ ของบุคคลภายนอก เพราะวันนี้ภัยไม่ได้เกิดขึ้นในโรงเรียนเท่านั้น ยังมีภัยที่เกิดจากบุคคลภายนอกด้วย ศธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันดูแลเด็ก นอกจากนี้โรงเรียนต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุ เช่น หากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายกับเด็ก ควรจะรับมืออย่างไร เพื่อให้เด็ก และครู มีความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย แม้เราจะมีแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว โรงเรียนก็ต้องซักซ้อมให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นด้วย
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉัน ขอชื่มชมบุคลากรในพื้นที่ ที่สามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี เพราะหลังจาก ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.)หนองบัวลำภู ทราบเรื่องได้ประสานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว และทำการอพยพเด็กที่อยู่ในเส้นทางที่คนร้ายผ่าน ออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโรงเรียนโนนสวาทหนองไพบูลย์ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ และอยู่ในเส้นทางที่คนร้ายกำลังหลบหนี และเมื่อสถานศึกษารับแจ้งข่าว ครูในโรงเรียนได้นำเด็กนักเรียนไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว” น.ส.ตรีนุช กล่าวและว่า บ่ายวันนี้ ตนจะลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อไปให้กำลังใจให้กับคนในพื้นที่ และแสดงความเสียใจพร้อมกับให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย รวมถึงประชุมร่วมกับเขตพื้นที่ฯ และ ศธจ.หนองบัวลำภู เพื่อติดตามและวางมาตรการสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาที่เข้มข้นมากขึ้น
ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องตอบสังคมถึงเรื่องภัยคุกคาม ความไม่ปลอดภัยว่าไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติเท่านั้น แต่มีเกิดจากมิติทางสังคมมากขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องมีความเข้มงวดกวดขันมากขึ้น คือ การตรวจสอบคนที่จะเข้ามาในโรงเรียน โดยเฉพาะเข้าไปในห้องเรียนที่ต้องมีการตรวจค้น คัดกรองมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ใช่แก้ปัญหาเมื่อเกิดความสูญเสียไปแล้ว ขณะเดียวกันจะต้องมีความเข้มงวดในเรื่องของเวรยาม การตรวจตราการเข้าออกมากที่เข้มข้นขึ้นด้วย
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนุ วงษ์จินดา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้มีการออกหนังสือสั่งการไปยังวิทยาลัยในสังกัดทุกแห่ง ให้มีการตรวจตราบุคคลภายนอกอย่างเข้มงวด ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปในสถานศึกษา และให้มีการตรวจค้นอาวุธนักศึกษา รวมถึงคนแปลกหน้าด้วย โดยห้ามมีการพกพาหรือนำอาวุธทุกชนิดเข้าไปในสถานศึกษาโดยเด็ดขาด
