เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า การเดินหน้าโครงการจัดสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้แล้วเสร็จ หลังทิ้งร้างมานานกว่า 14 ปี ในงบประมาณก่อสร้างไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้หารือกับ ประชาคมชาวสงขลา และได้นำ 6 แนวทาง ที่ตนได้เสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณา คือ 1.ให้ดำเนินการสร้างอควาเรียมเหมือนเดิม 2.สร้างอควาเรียม แต่บูรณาการเทคโนโลยีเสมือนจริงเข้าไปด้วย 3. จัดทำเป็นศูนย์ศึกษาพันธ์พืช และป่าชายเลน 4.จัดทำเป็นศูนย์อบรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 5.โอนให้จังหวัดมาดำเนินการ เพื่อจัดแสดงสินค้า แสดงศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ และ 6. จัดทำเป็นศูนย์แสดงสินค้า และการท่องเที่ยวทางน้ำโดยสร้างท่าเรือ นั้น จะเลือกแนวทางใดขึ้นอยู่กับ ดร.สุเทพ โดยจะต้องไปดูข้อดี ข้อเสีย ก่อนเสนอให้น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการศธ. พิจารณาอีกครั้ง
ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานให้ น.ส.ตรีนุชรับทราบถึงปัญหาในภาพรวม ทั้ง ในส่วนโครงสร้างว่ามีปัญหาอะไรบ้าง หากเลือกดำเนินการในแต่ละแบบจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณเท่าไร และหากมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์อาคาร โดยเลือกดำเนินการตามแนวทางที่ 3-6 จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ซึ่งเท่าที่ดูแนวโน้ม รัฐมนตรีว่าการศธ. อยากให้ดำเนินการตามแนวทางที่ 5และ6 คือ จัดทำเป็นศูนย์แสดงสินค้าท้องถิ่น ซึ่งคงต้องดูความเหมาะสมรอบด้าน หรือหากเลือกแนวทางที่ 6 คือ ให้จังหวัดดูแล จัดทำเป็นศูนย์แสดงสินค้า และการท่องเที่ยวทางเรือ ก็จะต้องดูผลกระทบต่อพื้นที่การศึกษาที่ต้องออกแบบให้ดี เพราะอาจมีคนเข้ามาท่องเที่ยว รวมถึงดูในเรื่องประโยชน์ที่จะเกิดกับการศึกษาด้วย อาทิ ให้นักศึกษาได้มีพื้นที่ในการฝึกวิชาชีพ ตามระบบทวิภาคีด้วย ไม่ใช่ให้จังหวัดดูแลเด็ดขาดไปเลย
“ขณะนี้ ดร.สุเทพ ได้ขอตั้งคณะทำงานเพื่อเติม เพื่อเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ที่มี นายรอยล จิตรดอน เป็นประธานพิจารณาก่อนเสนอ รัฐมนตรีว่าการศธ. เพื่อเสนอครม.ต่อไป หากเลือกแนวทางที่ 3-6 ถือเป็นแนวทางที่ลงทุนน้อย แต่ผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้น จึงต้องเสนอให้ครม. พิจารณา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการศธ.และดร.สุเทพ ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับแนวทางที่ 5และ6 แต่หากเลือกกลับไปสร้างอควาเรียมเหมือนเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเสนอครม. สามารถเดินหน้าออกแบบเพิ่มเติมได้เลย แต่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกจำนวนมาก เท่าที่ดูเบื้องต้นต้องใช้งบเพิ่มกว่า 800-1,200 ล้านบาท สำหรับการก่อนสร้างอาคาร โรงพยาบาลสัตว์น้ำ กลุ่มพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำทั้งน้ำจืดและนำเค็ม ยังไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องจัดจ้างเพิ่มเติมเข้ามาอีกจำนวนมาก “ดร.สุภัทร กล่าว